เราเคยคุ้นกับการที่เส้นสายปลายพู่กันสื่อสารความเป็นศิลปะแทนศิลปิน แล้วหากพวกเขามีโอกาสเล่าเรื่องราวในชีวิตผ่านตัวหนังสือบ้าง …จะเป็นอย่างไร
นับเป็นความพิเศษที่ผู้ชมและนักสะสมงานศิลปะตั้งตารอ กับงาน I AM FINE ! DIVE INTO THE LIVES OF 10 ICONIC ARTISTS นิทรรศการเปิดตัวหนังสือ 10 เล่มที่ว่าด้วยเรื่องราวชีวิตและผลงานจากศิลปิน 10 คน ได้แก่ ประทีป คชบัว, วัชระ กล้าค้าขาย, แดง บัวแสน, ธีธัช ธนโชคทวีพร, ชัยณรงค์ กองกลิ่น, จงจิตร มูลมาตย์, เกียรติอนันต์ เอี่ยมจันทร์, อัญชลี อารยะพงศ์พาณิชย์, ออฟ สมิธ และ วิษณุพงษ์ หนูนันท์ ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม และจะจัดต่อเนื่องให้ผู้ชมได้แวะเวียนไปสัมผัสตัวตนและผลงานของศิลปินจนถึงวันที่ 23 มิถุนายน 2567 ที่ห้องจัดแสดง RCB Galleria 1-3 ของ ริเวอร์ซิตี้ แบงก์ค็อก เวลา 10.00-20.00 น.
ภายในหนังสือแต่ละเล่มได้บอกเล่าเรื่องราวเส้นทางชีวิตและการสร้างสรรค์ผลงานบนผืนผ้าใบที่จะพาผู้ชมไปสัมผัสมุมมองการทำงาน ความชอบในศิลปะ และการเดินทางสู่การเป็นศิลปินระดับแนวหน้า ซึ่งถูกถ่ายทอดและเรียบเรียงผ่านตัวหนังสือ ให้ผู้ชมอย่างเรา ๆ ได้ดื่มด่ำกับเนื้อหาไปพร้อมกับความเพลิดเพลินและเข้าใจผลงานในแต่ละช่วงชีวิต ตลอดจนได้ชมผลงานชิ้นสำคัญของศิลปินแต่ละท่านที่จัดแสดงภายในนิทรรศการครั้งนี้
นอกจากผลงานของศิลปินทั้ง 10 ท่านแล้ว งานนี้ยังมีศิลปินรับเชิญอีก 9 ท่านที่นำผลงานมาร่วมสร้างสีสัน เพิ่มบรรยากาศให้ผู้ชมงานได้เต็มอิ่มไปกับผลงานศิลปะรูปแบบต่างๆ พร้อมกับจับจองหนังสือและของที่ระลึกน่าสะสมรุ่นลิมิเต็ดที่เปิดให้สะสมเฉพาะภายในงานนี้ เช่น แก้ว ร่ม ซองการ์ด ที่เปิดขวด และอีกมากมายในราคาที่จับต้องได้
และเพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจผ่านตัวอักษรไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่สนใจในด้านศิลปะ หลังจบนิทรรศการแล้ว หากมีมหาวิทยาลัยใดที่สนใจหนังสือ โดยเฉพาะที่มีเปิดสอนสาขาด้านศิลปะ สามารถแจ้งความประสงค์มาที่เฟซบุ๊กเพจ TNC.ART ทางผู้จัดงานยินดีทยอยส่งมอบหนังสือทั้ง 10 เล่มที่มีจำนวนจำกัดให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้คนที่สนใจมีโอกาสได้สัมผัสและชื่นชมผลงานของศิลปินที่ชื่นชอบต่อไปอีกด้วย
แต่ก่อนที่เราจะไปสัมผัสตัวตนของเหล่าศิลปินแบบเต็มอิ่มภายในงานนี้ ทีม happening ขอพาทุกคนไปทำความรู้จักทั้ง 10 ศิลปินกันสักเล็กน้อย ก่อนที่ตัวอักษรและเส้นสีในผลงานของพวกเขา จะพาเราด่ำดิ่งไปกับเรื่องราวในชีวิตที่ยังไม่เคยมีใครพลิกหน้ากระดาษขึ้นมาเล่า
ใครจะรู้ว่าชีวิตของ ประทีป คชบัว เดินทางมาสู่การเป็นศิลปินรุ่นใหญ่ที่มีผลงานศิลปะเหนือจริง (Surrealism) ให้ได้ชมอย่างต่อเนื่องได้ เพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำจากเพื่อนสนิท ชีวิตของเขาเติบโตท่ามกลางช่างสิบหมู่และทำงานหาเลี้ยงตัวเองด้วยการเขียนภาพตั้งแต่เด็ก ก่อนจะก้าวเข้าสู่โลกศิลปะเต็มตัวด้วยความหลงใหล จนนำไปสู่การจัดแสดงงานครั้งแรก แม้เวลานั้นเขาจะขายงานไม่ได้จนรู้สึกผิดหวัง แต่ด้วยคำพูดให้กำลังใจของเพื่อนสนิท ทำให้เขามีพลังใจในการสร้างสรรค์ชิ้นงานอีกครั้ง
ผลงานภาพสีน้ำมันของเขามักมีกลิ่นอายความแฟนตาซีและเต็มไปด้วยรายละเอียด ท่ามกลางมนุษย์ สรรพสัตว์ และธรรมชาติเหนือจริง หากพิจารณาดี ๆ คุณจะพบกับเรื่องราวของผู้คนในสังคม การเมือง ตลอดจนชีวิตส่วนตัวที่หลั่งไหลพรั่งพรูมาสู่ผืนผ้าใบที่บอกเล่าออกมาได้อย่างน่าประทับใจ จนมีโอกาสได้จัดแสดงงานให้ผู้ชมทั้งในและต่างประเทศได้รับชมกันอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
ช่องทางติดตามศิลปิน : Prateep.Kochabua
วัชระ กล้าค้าขาย นับเป็นอีกหนึ่งศิลปินแนวเสมือนจริงระดับแนวหน้าของประเทศไทย ด้วยความหลงใหลในท่วงท่าอ่อนช้อยและความงดงามของนักเชิดหุ่น เมื่อครั้งเดินทางไปชมการแสดงหุ่นเชิด นำมาสู่การรังสรรค์ภาพเหมือนที่ราวกับหยุดห้วงเวลาแห่งอารมณ์และความรู้สึกไว้
ผลงานส่วนใหญ่ของเขามักนำเสนอความงามของหญิงสาว เริ่มตั้งแต่หญิงสาวในวรรณคดี เรื่องเล่า ตลอดจนภาพเหมือนของผู้มีชื่อเสียงและบุคคลทั่วไป โดยมีฉากและบรรยากาศภายในภาพ รับบทปรุงแต่งให้ความงดงามของหญิงสาวกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น ก่อนหน้านี้ เขาเพิ่งจัดแสดงผลงานในนิทรรศการ Beauty and The Artist (2566) ถือเป็นการรวบรวมผลงานในช่วงปี 2544 - 2566 มาให้แฟนๆ ได้รับชมชีวิตและการเติบโตในลายเส้นของเขากันแบบใกล้ชิด
ช่องทางติดตามศิลปิน : Watchara Klakhakhai
หากใครติดตามผลงานของศิลปินภาพเหมือนที่มีลายเส้นเป็นเอกลักษณ์ อย่าง แดง บัวแสน จะค่อย ๆ พบเห็นวันเวลาที่เปลี่ยนไปในภาพเขียนของเขา
เมื่อครั้งเรียนอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย เขามักบอกเล่าสภาวะความเสื่อมถอยและโดดเดี่ยวในสังคม ด้วยแรงผลักดันภายในจิตใจ ผ่านผลงานสื่อผสม ทั้งจิตรกรรมและประติมากรรม ก่อนที่ผลงานของเขาจะเดินทางสู่ความเรียบง่าย บอกเล่าถึงความไม่ยั่งยืน ตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนา ขณะเดียวกันก็ยังคงไว้ด้วยรายละเอียดของความสนุกและความทรงจำต่าง ๆ นับเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ผู้ชมหลงใหลในงานของเขา จนมีโอกาสได้จัดแสดงผลงานที่ต่างประเทศ และมีนิทรรศการเดี่ยวครั้งสำคัญ อย่าง ก่อนอาทิตย์อัสดง (Before the Sunset, 2566) ให้ผู้ชมได้รับชม ก่อนที่เขาจะเดินทางกลับไปพำนักที่บ้านเกิดในจังหวัดมุกดาหารอีกด้วย
ช่องทางติดตามศิลปิน : Daeng Buasan
ธีธัช ธนโชคทวีพร เริ่มต้นสร้างสรรค์ผลงานด้วยการบอกเล่าถึงความงดงามของทิวทัศน์และบ้านเมือง ตามแบบฉบับผลงาน สไตล์อิมเพรสชั่นนิสม์ (Impressionist) ก่อนที่วันเวลาจะพาเขาทดลองค้นหาแนวทางใหม่ ๆ และหลงใหลในภาพเขียนเหนือจริง ที่ทำให้เขานำเสนอความคิดความเชื่อออกมาได้อย่างเสรีมากขึ้น แม้ช่วงแรกของการเปลี่ยนแปลง เขามักจะตั้งคำถามกับสิ่งที่ทำ แต่เมื่อผลงาน Sound of Light ถูกนำไปจัดแสดงภายในหอศิลป์แห่งชาติไต้หวันและตีพิมพ์ในนิตยสาร การเดินทางครั้งใหม่ก็เริ่มต้นขึ้น
ด้วยแนวทางการหยิบยกชีวิตของผู้คนมาทับซ้อนกับสรรพสัตว์ เปรียบเปรยลักษณะนิสัยเฉพาะตัวของสัตว์เหล่านั้นกับมนุษย์ในสังคม แม้ภาพวาดของเขาจะเต็มไปด้วยรายละเอียดให้เราได้ใช้เวลาพิจารณาความเป็นไป แต่ขณะเดียวกัน ก็เปิดพื้นที่ว่างให้ผู้คนได้ขบคิดและตีความตามแบบฉบับของตนเอง นอกจากนี้ หากสังเกตดี ๆ คุณจะพบว่าเหล่าตัวละครภายในภาพมักจะมีรอยสัก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความสนใจส่วนตัวที่ศิลปินสอดแทรกอยู่ในงานอีกด้วย
ช่องทางติดตามศิลปิน : Tetat Tanachoktaweporn
ชัยณรงค์ กองกลิ่น เป็นอาจารย์และศิลปินจิตรกรรมชาวจังหวัดเลย ที่มีการเปลี่ยนผ่านของชีวิตและผลงานที่น่าสนใจไม่น้อย เขาเริ่มต้นซึบซับความสนใจด้านการวาดภาพมาจากพี่ชาย และสนุกกับการสร้างชิ้นงานที่มีความหลากหลาย ตั้งแต่ศิลปะอิมเพรสชั่นนิสม์ไปจนถึงศิลปะร่วมสมัย บอกเล่าถึงวิถีชีวิตที่พบเห็นรอบตัว ก่อนที่การเติบโตและความกดดันจากการปรับตัวท่ามกลางสังคมคนเมืองจะพาเขาทลายกรอบและเริ่มทำงานศิลปะเหนือจริงมากขึ้น จนนำไปสู่การได้รับเลือกไปจัดแสดงผลงานในต่างประเทศครั้งแรก และอีกหลาย ๆ ครั้ง ทั้งทวีปเอเชียและยุโรปจนถึงปัจจุบัน
ผลงานของเขาในช่วงหลังมักมีคาแรกเตอร์เด็กเล็กมารับบทนำ ในการพาผู้ชมเดินทางไปยังพื้นที่และบริบทที่แตกต่างกันไป บางครั้งก็รับบทเป็นนักสู้ ทหาร ผู้คนในวัฒนธรรมต่างถิ่น ชวนให้รู้สึกขบขันและน่ารักน่าชังในบางที ขณะเดียวกันก็ชวนให้ขบคิดถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไป ตามแต่ละสังคมในโลกใบนี้
ช่องทางติดตามศิลปิน : Chainarong Kongklin
จงจิตร มูลมาตย์ เป็นอีกหนึ่งศิลปินที่หยิบห้วงอารมณ์ความรู้สึก มาถ่ายทอดผ่านสีหน้าของแบบได้อย่างน่าประทับใจ ผลงานของเขามักนำเสนอใบหน้าของผู้คนในระยะใกล้ ใกล้เสียจนเห็นรายละเอียดของร่องรอยที่เกิดจากความสุขและความทุกข์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ประกอบกับสัญลักษณ์เชิงความคิดจากสรรพสัตว์และธรรมชาติ
เขาเป็นที่รู้จักจากการเป็นหนึ่งในผู้ชนะบนเวทีการประกวดงานศิลปะของธนาคาร UOB และมีผลงานการจัดแสดงร่วมกับศิลปินในขัวศิลปะ จังหวัดเชียงราย อยู่บ่อยครั้ง
นอกจากนี้ เขายังเคยจัดแสดงนิทรรศการเดี่ยวที่ชื่อว่า นี่แหละ...ชีวิต : C'est la vie (2561) ที่นำเสนอภาพ ชีวิตบนความเป็นจริงและความฝัน ความรู้สึกนึกรักและเกลียดชัง ถูกถ่ายทอดผ่านความละมุนละไมในเส้นสีของศิลปิน ชวนให้รู้สึกสงบและอึดอัดใจในคราเดียวกัน
ช่องทางติดตามศิลปิน : Jongjit Moolmat
หากคุณเป็นหนึ่งคนที่ติดตามผลงานของเหล่าศิลปินในโลก NFT คุณจะรู้จักชื่อของ เกียรติอนันต์ เอี่ยมจันทร์ หรือ Line Censor เป็นอย่างดี เพราะเขาเป็นเจ้าของผลงานจิตรกรรมและประติมากรรมขนาดเล็กใหญ่ ที่นักสะสมงานศิลปะทั่วโลกอยากมีไว้ครอบครอง โดยเฉพาะผลงานชื่อ Forbidden Suit ที่มีมูลค่ากว่า 3.3 ล้านบาทในการประมูลเมื่อปี 2565
ผลงานของเขามักผสมผสานความเป็นการ์ตูน โลกเสมือนจริง และเรื่องราวในโลกความเป็นจริงไว้ด้วยกัน โดยมักหยิบยกแนวความคิดและอารมณ์ของการใช้ชีวิต ทั้งแง่บวกและลบ ตลอดจนการนำหลักคำสอนของพระพุทธศาสนามาบอกเล่าภายในภาพ พาให้เกิดเสน่ห์และเอกลักษณ์ของชิ้นงาน ท่ามกลางความวุ่นวายของสรรพสัตว์และสิ่งมีชีวิตน้อยใหญ่ มีเพียงใบหน้าของคาแรกเตอร์หลักที่เด่นชัดและสื่อสารห้วงอารมณ์ของภาพนั้นออกมาได้อย่างน่าประทับใจ
ช่องทางติดตามศิลปิน : Kiatanan Iamchan
อัญชลี อารยะพงศ์พาณิชย์ เป็นศิลปินหญิงเพียงหนึ่งเดียวที่มาร่วมถ่ายทอดชีวิตในนิทรรศการครั้งนี้ ด้วยคาแรกเตอร์ตาโตอันมีเอกลักษณ์ ประกอบกับฉากหลังที่ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์เรื่องโปรด ผสมผสานเรื่องราวส่วนตัวของศิลปินและสังคมรอบตัว ยิ่งเมื่อพิจารณาในรายละเอียดของเส้นสีจากฝีแปรงที่มีความละเมียดละไม จะยิ่งเห็นเรื่องราวที่ซุกซ่อนไว้ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ อาวุธที่ใช้ ตลอดจนสิ่งต่าง ๆ ที่มีความหมายชวนให้ขบคิด จึงไม่แปลกใจเลย หากผลงานของเธอกลายเป็นที่จดจำในแวดวงศิลปะ และมีผลงานให้ผู้ชมได้ติดตามกันอย่างต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้ ศิลปินเคยจัดแสดงผลงานเดี่ยว Disorder (2565) ที่หยิบเรื่องราวในหนังและการ์ตูนมาบอกเล่าเรื่องราวความผิดปกติในชีวิต ตั้งแต่การใช้จุดสีแต่งแต้มไปตามอารมณ์และความย้ำคิดย้ำทำที่เกิดขึ้นในชีวิต ผลงานแต่ละชิ้นราวกับบันทึกความรู้สึกในช่วงตอนหนึ่งไว้ ขณะเดียวกัน การได้ระบายสีสันลงบนผืนผ้าใบก็ค่อย ๆ พาให้ก้าวไปสู่ทางออกที่เรียกว่า ความสุข ได้เช่นเดียวกัน
ช่องทางติดตามศิลปิน : Anchalee Arayapongpanit
การถูกห้อมล้อมด้วยครอบครัวที่ทำงานและสนใจในด้านศิลปะ ทำให้ ออฟ สมิธ ซึมซับและรับงานศิลปะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต จนมีโอกาสได้ตีพิมพ์ผลงานกับนิตยสารในนิวยอร์ก เขาเป็นหนึ่งคนที่มีผลงานจัดแสดงมาแล้วมากมายทั้งในและต่างประเทศ ตามความเชื่อที่ว่า หากมีความสุขในสิ่งที่ทำ ชิ้นงานที่ทำก็จะมีความแข็งแรงในการเติบโตมากขึ้น
แม้ความน่ารักปนทะเล้นจะเป็นความรู้สึกแรก ยามที่ผู้ชมสัมผัสกับชิ้นงานของศิลปินคนนี้ แต่เมื่อเพ่งลึกในรายละเอียด คุณอาจพบกับความตลกร้ายที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้ความเป็นป็อปเซอร์เรียลลิสม์ ไม่ว่าจะเป็นปรากฎการณ์การลุกฮือของเหล่าสัตว์เลี้ยงครั้งใหญ่ในนิทรรศการ ความพินาศอันเงียบสงัด (Silent Ravage, 2560) ที่เขาหยิบสีสะท้อนแสงมาแต่งแต้มลงในงาน จนเกิดเป็นภาพวาดที่ชวนให้ตั้งคำถามต่อไปอย่างไม่รู้จบ นอกจากนี้ เขายังเคยนำผลงานไปจัดแสดงภายใน Thinkspace แกลเลอรีระดับโลกในประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
ช่องทางติดตามศิลปิน : Aof Smith
ด้วยความประณีตของงานจิตรกรรมและประติมากรรมที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ วิษณุพงษ์ หนูนันท์ ถือเป็นศิลปินที่ผู้คนให้ความสนใจและรอจับจองผลงานมากที่สุดในเวลานี้ เขาเริ่มต้นจากเด็กที่ชอบขีดเขียนลงบนกระดาษ และก้าวสู่รั้วมหาวิทยาลัยด้วยความหลงใหลในงานศิลปะ ก่อนที่เขาจะเปิดประตูก้าวสู่โลกศิลปะเต็มตัว ด้วยเทคนิคเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร
ผลงานของเขามักผสมผสานเอกลักษณ์ของภาพวาดและงานปั้นไว้ด้วยกันอย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะการสร้างสรรค์ภาพนูนต่ำและเว้าลึก จนเกิดเงาทับซ้อนลงบนภาพวาด ชวนให้คนตีความถึงความลวงและความจริง นำไปสู่การจัดแสดงในงานศิลปกรรมแห่งชาติ และมีนักสะสมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศจับตามองอย่างต่อเนื่อง ยิ่งเมื่อประกอบกับผลงานแต่ละชิ้นที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก จึงไม่แปลกใจเลยที่ใครต่อใครต่างก็รอคอยจะสัมผัสผลงานของเขาด้วยตาตัวเองสักครั้ง
ช่องทางติดตามศิลปิน : Widsanupong Noonan
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากเรื่องราวของศิลปินทั้ง 10 ท่าน ในนิทรรศการ I AM FINE ! DIVE INTO THE LIVES OF 10 ICONIC ARTISTS ยังมีภาพชีวิตและตัวตนที่โอบล้อมด้วยศิลปะอีกหลายแง่มุมในหน้าหนังสือและผลงานอีกมากมาย ซึ่งถูกสร้างสรรค์และปาดป้ายด้วยลวดลายแห่งชีวิตที่รอให้คุณได้สัมผัสด้วยตนเอง
1323 VIEWS |
กองบรรณาธิการที่กำลังใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน ชอบคุยกับผู้คน ท้องฟ้า และเสียงดนตรี เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการฟังเพลง ที่บางทีก็ปล่อยให้เพลงฟังเรา
ช่างภาพและนักประสานงานเจ้าระเบียบที่อัพสกิลความละเอียดขึ้นทุกปี กำลังใช้เวลากับเพื่อนสนิทที่ชื่องานเขียนและภาพถ่ายไปพลางๆ ระหว่างรอแก่ไปเจอฝันเล็กจิ๋วอย่างการนั่งชมต้นไม้ในสวนหลังบ้านของตัวเองบนเก้าอี้โยกกับหมาซักหนึ่งตัว