ย้อนไปเมื่อปีที่แล้ว อาจเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำของใครหลายคน เป็นปีแห่งการเริ่มต้นใหม่ ปีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจนผันเปลี่ยนชีวิตไป หรือเป็นปีแห่งประวัติศาสตร์ เช่นเดียวกับวงการสิ่งพิมพ์ไทย ที่แม้ว่าจะเป็นปีแห่งความสูญสลายของสิ่งพิมพ์ ทว่าในขณะเดียวกัน ก็เกิดเทศกาลอาร์ตบุ๊กที่รวบรวมสิ่งพิมพ์ศิลปะเอาไว้มากที่สุดงานหนึ่งในกรุงเทพฯ ขึ้น 

    เทศกาลนี้เกิดขึ้นจากการร่วมมือกันระหว่างบางกอก ซิตี้ซิตี้ แกลเลอรี กับ Studio 150 สตูดิโอออกแบบกราฟิกของ ปิยกรณ์ ชัยวีรพันธ์เดช และ พัชร ลัดดาพันธ์ ที่มีความหลงใหลในสิ่งพิมพ์อยู่แล้ว บวกกับชอบไปเทศกาลอาร์ตบุ๊กของต่างประเทศ จุดประกายไอเดียที่อยากให้ไทยมีงานแบบนี้บ้าง

    ด้วยคอนเทนต์งานที่น่าสนใจ กิจกรรมต่างๆ และบรรยากาศสุดเฟรนด์ลี่ ทำให้ Bangkok Art Book Fair ในปีแรกประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย ทั้งในแง่ผลกำไรของอาร์ตบุ๊กเมกเกอร์ และผู้ร่วมงานด้วยจำนวนกว่า 3,000 คนตลอดระยะเวลาการจัดงาน 3 วันครึ่ง

    ในปีนี้ ทีมงานได้เผยกับเราว่าทางผู้สมัครฝ่ายคอนเทนต์เมกเกอร์เพิ่มจำนวนขึ้นกว่าปีที่แล้ว และคอนเทนต์ในงานมีความหลากหลายมากขึ้น โดยเพิ่มส่วนที่เป็นเชิงวิชาการ ทั้งยังมีการจัดกลุ่มประเภทคอนเทนต์ให้เป็นสัดส่วน

    นอกจากเพจ Bangkok Art Book Fair จะขยันโปรโมตเหล่าอาร์ตบุ๊กจนทำให้กระเป๋าเงินทุกคนสั่นตลอดเวลาแล้ว แต่เมื่อตัดภาพมาที่ความเป็นจริง เราคงไม่สามารถซื้อหนังสือทั้งงานได้ ดังนั้น ทีมแฮพฯ จึงอาสามาแนะนำ 5 อาร์ตบุ๊กในงานนี้ที่เราไม่อยากให้ทุกคนพลาด

บ็อกซ์เซต: 32 x 32 x 5 ซม.
ราคา 12,000 บาท
โต๊ะ Atmosphere หมายเลข 47

    เจ้ย-อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล คือบุคคลผู้มากความสามารถในแขนงศิลปะต่างๆ เขาได้รับการยกย่องในระดับโลกและมีรางวัลมากมายการันตี โดยเฉพาะแวดวงคนทำหนัง ซึ่งในงานนี้ ได้วางขายบ็อกซ์เซตพิเศษที่ทำมาแค่ 200 ชุดเท่านั้น ภายในกล่องบรรจุ

    1. แผ่นเสียงพิมพ์สีพิเศษ จำนวน 2 แผ่น ประกอบด้วยเพลงและซาวนด์ดีไซน์จากอัลบั้ม Metaphors : Selected Soundworks from the Cinema of Apichatpong Weerasethakul
    2. ซีดีเพลงจากอัลบั้ม Metaphors : Selected Soundworks from the Cinema of Apichatpong Weerasethakul
    3. รูปถ่ายโดย อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล พร้อมลายเซ็นจำนวน 1 รูป
    4. หนังสือ Dreams เขียนโดย อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล (พิมพ์จำนวนจำกัด)
    5. เพลตแม่พิมพ์แสดงเลขอิดิชัน

    แม้ราคาจะสูง แต่เมื่อพินิจถึงสิ่งที่ได้รับแล้ว ก็ดูสมเหตุสมผลเป็นที่สุด และเราก็เชื่อว่าแฟนๆ เจ้ยทั้งในและต่างประเทศจะต้องไม่พลาดผลงานเซตนี้ของเขาแน่นอน

16 หน้า: 20 x 30 x 0.5 ซม.
พิมพ์ดิจิทัล และซิลก์สกรีน
ราคา 500 บาท
โต๊ะ Practical หมายเลข 05

    ในแวดวงสิ่งพิมพ์ สตูดิโอ Practical คือหนึ่งในสตูดิโอที่ออกแบบหนังสือได้มีเอกลักษณ์ และกวาดรางวัลด้านการดีไซน์ไปไม่น้อย ทั้งยังทำให้ผู้อ่านว้าวกับแนวคิดการออกแบบอยู่เสมอๆ ซึ่งหนังสือหน้าตาสุดเท่เล่มนี้ เป็นสิ่งเฉพาะกิจที่ได้รับการออกแบบกระบวนการทำงานร่วมกันของสมาชิกนักออกแบบสื่อสารจากสตูดิโอ Practical ผ่านการนำเสนอตัวตน ความคิด บันทึก และเรื่องราวเฉพาะตนลงมาในพื้นที่ร่วม (หนังสือ) ซึ่งจะมีการปะทะกันระหว่างสิ่งที่แต่ละคน 'เป็น' ยึดถือ และคิดว่าเป็นเช่นนั้น (is) ซึ่งอาจถูกต่อรองสถานะความเป็นสิ่งนั้นจากบุคคลอื่นที่ร่วมอยู่ในพื้นที่ จากการทับซ้อน เทียบเคียง ต่อเติม หรือประกอบใหม่ จนไม่เป็นสิ่งเดิม (isn't) อันนำไปสู่สภาวะกำกวมในที่สุด (isn't not)

    หนังสือเล่มนี้จึงจัดทำโดยการแยกกันตระเตรียมอย่างอิสระ ประกอบรวมกันด้วยการจัดการร่วมกัน ภายใต้แนวคิด การสุ่ม-คละ (random) ผ่านระบบพิมพ์ดิจิทัล และจบงานด้วยกระบวนการด้นสดผ่านกระบวนการพิมพ์ซิลก์สกรีนในรูปแบบการเลือกตำแหน่งพิมพ์แบบฉับพลันของสมาชิก เกิดเป็นการผสมรวมกันของการรวมกันและแยกกันทำอย่างน่าสนใจ

68 หน้า: 24 x 17 x 0.2 ซม.
พิมพ์เลเซอร์
ราคา 350 บาท
โต๊ะ หายหายและหลายๆ ใบ หมายเลข 29

    'นาดี' คือชื่อหมู่บ้านที่จังหวัดสกลนคร คนแถวนั้นเรียกว่าบ้านนาดี และยังเป็นชื่อหนังสือรวม 55 เรื่องสั้นที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในชนบทของภาคอีสาน หนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องชีวิตและบรรยากาศได้อย่างเห็นภาพและเป็นธรรมชาติ ด้วยสายตาของคนที่เป็นทั้งคนในและคนนอก อ่านแล้วเหมือนได้ไปอยู่ที่นั่น ในแบบที่ไม่เหมือนกับการไปเที่ยว แต่เป็นในแบบที่นานพอจะรู้จักมักคุ้นกับผู้คน จังหวะการใช้ชีวิต และการมองโลกในแบบของคนในพื้นที่นั้น

    ที่เจ๋งมากๆ คือมีเรื่องสั้นที่เล่าด้วยภาษาอีสานภูไทอยู่ด้วย แถมเล่มนี้ยังเข้าเล่มด้วยวิธีเย็บมือด้วยด้ายไนล่อนอุตสาหกรรมคละสี เป็นกิมมิกน่ารักๆ ที่แฝงอยู่ ถือเป็นผลงานล่าสุดของ หายหายและหลายๆ ใบ ที่เคยมีผลงานเป็นหนังสือทำมือมาแล้วหลายเล่ม

18 หน้า: 14.8 x 21 ซม.
พิมพ์ดิจิทัล
โต๊ะ Interesting Pictures หมายเลข 25

    TUNA Dunn คือศิลปินที่ทำงานออกมาอย่างสม่ำเสมอ และไม่ได้จำกัดอยู่แค่สิ่งพิมพ์เท่านั้น แต่ TUNA Dunn ก้าวกระโดดทำงานโปรดักต์ส่วนตัว รวมถึงได้ร่วมงานกับแบรนด์ดังมากมาย ด้วยลายเส้นและการเล่าเรื่องมีความเป็นสากล ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก บวกกับสีสันที่เธอเลือกใช้ แฟนไทยและแฟนต่างประเทศจึงจดจำเธอได้ ถือเป็นศิลปินรุ่นใหม่อีกคนที่น่าจับตามอง

    ในงานนี้ เธอกลับมาจับงานสิ่งพิมพ์อีกครั้ง กับซีนทดลองเล่มแรกของ TUNA Dunn ที่ใช้ตัวอักษรและรูปเล่มเป็นหลักในการสื่อสารมากกว่าการใช้รูป ถือเป็นอีกมิติหนึ่งของอาร์ตบุ๊กที่ใช้การดีไซน์รูปเล่มเพื่อส่งสาร

357 หน้า: 10.5 x 20 x 3 ซม.
พิมพ์ออฟเซต
ราคา 1,000 บาท
โต๊ะ 100 Tonson Gallery หมายเลข 32

    ผุดเกิดมาลาร่ำ' เป็นผลลัพธ์ในรูปแบบหนังสือจากนิทรรศการ 'ศิลปินกำลังพยายามกลับไปเป็นนักเขียน' โดย อารยา ราษฎร์จำเริญสุข หนึ่งในศิลปินชั้นครูของไทย และโด่งดังไกลในระดับโลก ซึ่งทางหอศิลป์ 100 ต้นสน ได้เชื้อชวนให้ศิลปินกลับไปทำงานเขียนอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนาน หนังสือเล่มนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและเปิดกว้างให้นักวิชาการได้อภิปรายเกี่ยวกับการปฏิบัติงานเขียนของอารยาในฐานะสื่อศิลปะ ทั้งยังเข้ารอบ Shortlist งานประกวด S.E.A. Write ปีนี้ด้วย

    รูปเล่มออกแบบโดย วิรดา บรรเจิดรุ่งขจร มีปกให้เลือกสองสี คือ สีเขียวอมฟ้า และสีขาว อย่างละ 200 เล่ม ทุกเล่มมีลำดับหมายเลขเขียนโดยศิลปิน ซึ่งเราได้ยินมาว่าตอนนี้เหลือจำนวนน้อยมากๆ แล้วด้วย

    กว่าจะคัดเหลือแค่ 5 เล่มได้นี่ยากมากๆ เพราะปีนี้มีแต่อาร์ตบุ๊กน่าสนใจเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายของประเภทคอนเทนต์หรือตัวมีเดียที่หยิบจับได้ และใครที่อยากแวะไปหาเรา happening ก็ไปตั้งโต๊ะในงานนี้กับเขาด้วยนะ มาหาได้ที่โต๊ะหมายเลข 37 ในวันที่ 6 กันยายน 2561 เวลา 18.00-21.00 น. และวันที่ 7-9 กันยายน 2561 เวลา 13.00-21.00 น. (ค่าเข้างาน 60 บาท/คน)

    งานนี้ เราขนอาร์ตบุ๊กไปมากมาย ไม่ว่าจะเป็น GOOD DAY BAD DAY BUT EVERYDAY โฟโต้บุ๊กเล่มแรกในชีวิตของช่างภาพสตรีทชื่อดัง ทวีพงษ์ ประทุมวงษ์ และ happening ฉบับล่าสุดอย่าง happening 'Bangkok Art Scenes' ที่ชวนทุกคนไปสัมผัสความเป็นศิลปะรูปแบบต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งนอกจากจะแนะนำแกลเลอรี ครีเอทีฟสเปซ พิพิธภัณฑ์ โรงภาพยนตร์ เทศกาลศิลปะ รวมทั้งเทรนด์และบุคคลที่น่าสนใจต่างๆ ในเล่มยังมีภาพประกอบสุดพิเศษจากศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานจากสถานที่และหัวข้อต่างๆ ทั้งเล่ม เช่น Juli baker and summer, นักรบ มูลมานัส, มานิตา ส่งเสริม เป็นต้น หรือถ้าใครไม่สะดวกเดินทางไป ก็สั่งซื้อได้ที่เว็บของเราเหมือนเดิม

สั่งซื้อ happening 'Bangkok Art Scenes' ได้ที่นี่