Something Simple: ไม่ต้องจบดีไซน์ก็มีแบรนด์ดีไซน์ได้!

    ในช่วง 4-5 ปีมานี้ มีแบรนด์กระเป๋ามากมายเกิดขึ้นในโลกออนไลน์ เจ้าของหลายคนเป็นถึงนักเรียนออกแบบฝีมือเก่งกาจ บางคนมีจุดเริ่มต้นที่มาจากการสำรวจตลาดอย่างแข็งขัน และอีกไม่น้อยที่ได้แรงบันดาลใจมาจากดีไซเนอร์ที่เขาหรือเธอชื่นชอบ

    แต่รู้ไหม…มีอยู่แบรนด์หนึ่งที่เกิดจากเด็กสาวคณะโบราณคดีที่แค่อยากได้กระเป๋าเรียบๆ ไว้ใช้งานก็เท่านั้น

    ใบตอง-ลลิตา, ใบเตย-ณัฐธิดา และ ใบตาล-อภิญญา ลือชาพัฒนพร สามสาวพี่น้องผู้เป็นเจ้าของแบรนด์ไลฟ์สไตล์โปรดักต์ 'ซัมติง ซิมเพิล (Something Simple)' ที่ดำเนินมาจนขึ้นปีที่ 5 นี้ ต่างช่วยกันอุ้มชูดูแลช่วยเหลือกันและกันมาเป็นอย่างดี นอกจากจะขายกันเองแล้ว แฟนๆ แบรนด์นี้คงคุ้นหน้าพวกเธอจากภาพโปรโมตสินค้าที่ทั้งสามเป็นนางแบบเองด้วย

    ย้อนความไปเมื่อปี พ.ศ. 2556 ที่เด็กสาวคนหนึ่งแค่อยากได้กระเป๋าสไตล์มินิมอลที่ยังไม่เป็นที่นิยมในตอนนั้น จึงทำให้เธอลองศึกษาวิธีการและออกแบบง่ายๆ ด้วยตัวเองจากเงินลงทุนของใบเตย ผู้เป็นพี่สาวคนโต ออกมาเป็นกระเป๋าลอตแรกไว้ใช้เองบ้างแจกเพื่อนบ้าง ก่อนจะนำไปวางขายในอีเวนต์งานมหาวิทยาลัยและได้รับผลตอบรับอย่างท่วมท้น ทำให้กระเป๋าที่มีที่มาง่ายๆ สมกับชื่อ ซัมติง ซิมเพิล เจริญเติบโตขึ้นจนได้ออกแฟร์ใหญ่ระดับประเทศ กลายเป็นอาชีพที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้เจ้าของ

     ที่สำคัญยังทำให้สมาชิกในทีมอย่าง 'เธอ' กลายเป็น 'พวกเธอ' เสียอีกแน่ะ

    แรกเริ่ม ใบตอง พี่คนกลางเป็นผู้สร้างแบรนด์นี้ขึ้นมาเป็นคนแรก เธอลองผิดลองถูกมามากมาย ทั้งยังมีเสียงคัดค้านจากแม่และน้องสาวอย่างใบตาล แต่เด็กสาวก็มุมานะทำงานจนสมาชิกในบ้าน รวมถึงบ้านข้างเคียงได้ยินเสียงค้อนดังมาจากห้องใต้หลังคาทุกคืน

    ในที่สุดทุกคนในบ้านก็เริ่มเปิดใจให้การสนับสนุน ซึ่งเมื่อเธอสามารถพิสูจน์ตัวเองได้จากอีเวนต์แรกที่ขายได้หมดเกลี้ยงแล้ว ก็เกิดเป็นจุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ที่ทำให้แบรนด์นี้เป็นรูปเป็นร่างขึ้น พร้อมขยายฐานเข้าสู่ตลาดใหญ่อย่างโลกออนไลน์ทันที โดยมีน้องสาวอย่างใบตาลที่ช่วยเธอขายตั้งแต่งานแรกเข้ามาเป็นอีกส่วนหนึ่งอย่างเต็มตัว

    "เราเรียนนิเทศศาสตร์มา ตอนทำโปรเจกต์จบก็ใช้แบรนด์นี้มาทำทีสิสเรื่องมาร์เก็ตติ้งออนไลน์ จบปุ๊บก็เลยเอามาต่อยอด ตอนนั้นพี่ตองยังไม่มีระบบ เราก็เข้ามาดูแลจัดการข้อมูล กลายเป็นสเกลที่คุยกับภายนอกรู้เรื่องขึ้น" น้องคนเล็กอธิบายด้วยท่าทีสดใส

    พี่น้องจึงแบ่งหน้าที่การทำงานอย่างชัดเจน ใบตองจะดูแลด้านโปรดักชันทั้งหมด ตั้งแต่การออกแบบ หาวัตถุดิบ เลือกเส้นด้าย หาโรงงาน ติดต่อช่าง และขั้นตอนการจบงาน ส่วนใบตาลจะดูแลเรื่องมาร์เก็ตติ้งทั้งในและต่างประเทศ การบัญชี และงานเอกสารตามความถนัด

    แม้ว่าใบเตยจะไม่ได้ลงมาช่วยงานน้องๆ อย่างเต็มตัว ทว่าเธอก็มักจะยื่นมือมาช่วยตลอด ทั้งด้านการติดต่อลูกค้า ออกแฟร์ หรือแม้แต่ช่วยตอกกระเป๋า จนเธอพูดขำๆ ว่าเป็น 'ลูกน้อง' ของน้องสาวทั้งสองของตัวเอง ซึ่งในอนาคตพี่สาวคนโตคนนี้ก็มีแผนเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของซัมธิง ซิมเพิลอย่างเต็มตัวแน่นอน

    ทำงานร่วมกันก็เป็นธรรมดาที่จะมีกระทบกระทั่งกันบ้าง แม้แต่คนที่เป็นพี่น้องกันแบบใบตองกับใบตาล ปัญหานี้ก็ยังเกิดขึ้นเสมอ "มีงอนกันบ่อย อย่างเวลาเขางอนก็จะไปคุยกับหมา ไม่คุยกับเรา แต่เหมือนพวกเราจะรู้กันเองว่าต้องใช้เวลาสักแป๊บนึง แล้วจะคุยเองโดยไม่ต้องเคลียร์กัน" ใบตาลเล่าขำๆ

    "มันเป็นธรรมชาติของเขา น้องสาวเราก็ดุไป เราก็งี่เง่าเอง หยวนๆ กัน เพราะสุดท้ายแล้วเราก็ลาออกจากการเป็นพี่น้องไม่ได้" ใบตองเสริมอย่างอารมณ์ดี

    ด้วยอายุที่ห่างกันแค่ปีเดียว จึงทำให้เราสัมผัสได้ถึงการพูดคุยที่ดูสนิทสนมกันเหมือนเพื่อนสนิทของทั้งคู่ด้วย จึงไม่แปลกใจเลยว่านอกจากความรู้ความถนัดที่เติมเต็มกันแล้ว เหตุใดทั้งคู่ถึงทำงานร่วมกันได้อย่างยาวนาน

    เมื่อถามถึงปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกเธอทำงานที่ชอบกันได้ 'การเลี้ยงดู' ถือเป็นคำตอบสำคัญ เนื่องจากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สมาชิกในครอบครัวนี้ไม่มีใครทำงานออฟฟิศกันเลย พ่อกับแม่ของทั้งสามเองก็ให้อิสระกับลูกๆ เต็มที่ สิ่งนี้เองที่ส่งผลต่อวิธีคิดและการใช้ชีวิตของทั้งสาม จนทำให้เกิดแบรนด์กระเป๋าซัมติง ซิมเพิล เพราะพวกเธอแค่อยากมีกระเป๋าที่ถูกใจและตอบโจทย์การใช้ชีวิตก็เท่านั้น เพียงแต่มันไปได้ไกลกว่าด้วยการตอบโจทย์ชีวิตคนอื่นๆ ด้วย

    ด้วยความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย ทำงานกันอย่างสบายๆ และความเป็นครอบครัวนี้นี่เองที่ทำให้แบรนด์ยืนหยัดต่อเนื่องท่ามกลางแบรนด์ใหม่ๆ ซึ่งในอนาคต พวกเธอก็มีแผนทำเสื้อผ้าที่ครอบคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้าภายใต้คอนเซปต์แฮนด์เมดแอนด์ฮาร์ทเมด (Handmade & Heartmade) ด้วยเช่นกัน

    นอกจากนี้ พวกเธอยังมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเปิดช็อปโชว์สินค้าเล็กๆ ของแบรนด์ด้วย ทั้งยังตั้งใจที่จะทำโปรเจกต์ใหม่ทุกปี และเปิดรับทีมงานเพิ่มขยายทีมให้ใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับอนาคตที่จะมาถึงอีกด้วย


อ่านเรื่องชีวิตการทำงานที่บ้านของ Something Simple และศิลปินคนอื่นๆ เช่น It takes two to tango, Jibberish, ร้านหนังสือออนไลน์ Readery และวง Moving And Cut เพิ่มเติมได้ในหนังสือ happening 'Homework'

Favorite Something
  •   Spirited Away (2001), Midnight in Paris (2011)
  •   Stoondio, Earth Patravee
  •   อาจารย์หมา-ธันยพร หงษ์ทอง
  •   Rumpaporn Vorasiha, Banksy

เดือนเพ็ญ จุ้ยประชา

นักเขียนและกองบรรณาธิการที่พบเจอตัวได้ตามหอศิลป์และร้านหนังสือ ชอบกินแซลมอนและชาบู อยากแก่ไปเป็นคุณป้าใจดีและมีฝูงแมวห้อมล้อม

พิชาญ สุจริตสาธิต

ช่างภาพอิสระ ชอบทำงานเกี่ยวกับสิ่งพิมพ์ ชอบปลูกต้นไม้ ชอบทำทุกอย่างที่เกี่ยวกับศิลปะโดยไม่จำกัดอุปกรณ์ เพราะเชื่อว่าความรู้ทุกอย่างจะส่งเสริมกัน และทำให้เราเป็นคนที่มองโลกได้ละเอียดขึ้น