เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยโดนน้องหมาตกเพียงเพราะได้เห็นหน้า แต่เมื่อได้ใกล้ชิดกับพวกเขาแล้ว จึงทำให้รู้ลึกซึ้งว่า เขาเป็นเหมือนเพื่อนที่คอยอยู่ข้างเรา ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขหรือสถานการณ์ที่ยากลำบาก เป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นเมื่อเราต้องการกำลังใจ หรือการได้รับความรักตอบกลับมาด้วยความรักที่เรามีต่อน้องหมา
…รู้ตัวอีกทีก็เป็นทาสหมาไปแล้ว
สายสัมพันธ์และความรู้สึกพิเศษที่มีต่อกันนี้ จึงเป็นแรงบันดาลใจให้กับ 5 แบรนด์นักวาดที่ถ่ายทอดคาแรกเตอร์และท่าทางของน้องหมาออกมาให้หลายคนเกิดรอยยิ้มและหลงรักไปพร้อมๆ กัน ได้แก่ Bringhome.thebacon, zky.studio, worapeachh, ssktmmee, และ pnk.ff ซึ่งนักวาดทุกคนมีความสามารถที่น่าประทับใจในการเล่าเรื่องผ่านคาแรกเตอร์น้องหมาแต่ละตัวให้เต็มไปด้วยความน่ารักขี้เล่น แล้วยังเติมความคิดสร้างสรรค์ในรูปแบบของตนเองเข้าไปอีก …ว่าแล้วก็มาเริ่มรู้จักกับพวกเขากันเถอะ
Bringhome.thebacon: คาแรกเตอร์น้องหมาที่เกิดจากความสุขของชีวิตประจำวัน
เจ้าของแบรนด์สองพี่น้อง แป๋ม-ณัฐณิชา ศิโรรัตนกุล และ ป๋อม-ณิชาภัทร ศิโรรัตนกุล เริ่มต้นด้วยความชอบทางศิลปะและการวาดรูปในช่วงที่กำลังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 1 ประกอบกับความอยากที่จะมีแบรนด์ของตัวเอง เธอจึงเริ่มผลิตและพัฒนาผลงานไปเรื่อยๆ ตั้งแต่การเย็บกระเป๋า แล้วขยับขยายไปจนถึงการสร้างสติกเกอร์ สมุดโน้ต และ กระดาษโน้ตแล้ว เธอใช้การวาดภาพของตัวเองเล่าเรื่องน้องหมาพันธุ์บีเกิลที่ชื่อ ชาล็อต ซึ่งเธอพัฒนาให้เหมือนคนมากขึ้นจนมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
แป๋มเล่าย้อนกลับไปถึงแรงบันดาลใจในการวาดภาพน้องหมาในแบบที่เธอชอบ และกลายเป็นคาแรกเตอร์หลักๆ ในแบรนด์ของเธอว่า
"เหตุผลที่เลือกคาแรกเตอร์น้องหมา มาพัฒนาต่อเพราะว่าหมาเป็นสิ่งมีชีวิตที่เข้าถึงง่าย และมักจะเป็นตัวแทนของสิ่งที่สร้างความสุขกับคน เธอมองว่าหมาเป็นตัวแทนของความเฟรนด์ลี ตอบโจทย์ความต้องการนำเสนอของแบรนด์ เลยนำมาใช้"
ภาพวาดของเธอเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตที่เรียบง่ายและมีความสุขของน้องหมาชาล็อตกับเพื่อนๆ ที่ทำกิจกรรมภายในบ้าน เช่น ทำอาหาร การวาดภาพ ซึ่งผลงานของเธอสร้างรอยยิ้มและทำให้หลายๆ คนหลงรักเรื่องราวของน้องหมาตัวนี้เหมือนกัน ก่อนที่เธอจะปิดท้ายเรื่องราวของแบรนด์ด้วยการเล่าถึงคอนเสปต์ของ
Bringhome.thebacon ที่อบอุ่นหัวใจให้เราฟัง
"แบรนด์เรามีคอนเสปต์คีย์เวิร์ดง่ายๆ คือ Happy Little Thing คือการหาความสุขจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ จากชีวิตประจำวัน เหมือนคาแรกเตอร์ที่กำลังนำเสนอชาล็อตกับเพื่อนๆ ก็จะมีความเป็นหมาที่ชอบอยู่บ้าน ใช้ชีวิตในบ้านอย่างไร เราพยายามจะนำเสนอว่า เราไม่จำเป็นต้องหาความสุขไกลตัว เราสามารถมองหาความสุขใกล้ตัวได้"
zky.studio: คาแรกเตอร์เหล่าน้องหมาชาวออฟฟิศ
zky.studio เริ่มต้นจากความชอบหมาร่วมกับความหลงใหลในศิลปะของ มี่-พิชญา เคหสุขเจริญ เธอเริ่มฝึกวาดงานดิจิทัลอาร์ตผ่านไอแพดเครื่องแรกของเธอ โดยเริ่มจากการวาดภาพน้องหมาตามสไตล์ตัวเองก่อน แล้วจึงริเริ่มที่จะออกโปรดักส์ออกมา
เธอเล่าถึงชิ้นงานที่เธอชื่นชอบมากเป็นพิเศษในช่วงที่เธอกำลังทำงานเป็นพนักงานประจำที่ออฟฟิศให้ฟังว่า
"ชิ้นงานที่ชอบมากที่สุดก็จะเป็น แก๊งน้องหมาซาลารีด็อก (salarydog) ซึ่งเป็นการเล่นคำมาจากซาลารีแมน (salaryman) ที่แปลว่าพนักงานออฟฟิศของญี่ปุ่นค่ะ กลายเป็นแก๊งน้องหมาที่มีคาแรกเตอร์ทำงานออฟฟิศ เราสร้างผลงานนี้ขึ้นมาในช่วงที่เราทำงานเป็นพนักงานประจำอยู่ที่ออฟฟิศค่ะ เรานำเสนอน้องแต่ละตัวให้มีคาแรกเตอร์ที่ต่างกัน นำเสนอน้องๆ กับชีวิตประจำวันในแบบน่ารักๆ ให้เข้าใจง่าย เพื่อให้คนได้เข้าถึงและเห็นบางส่วนเข้ากับตัวเองได้ด้วย คือบางงานเราทำออกมาเป็นประเภทโปสการ์ดค่ะ ซึ่งก็จะมีเพื่อนๆ มาอุดหนุนเอาไปแปะที่ออฟฟิศของตัวเอง ทำให้เราก็รู้สึกดีมากค่ะ"
นอกจากนี้เธอยังกล่าวถึงความสุขที่เธอได้รับจากการสร้างแบรนด์นี้ว่า เธอมีความสุขที่ได้เห็นคนใช้สินค้าของเธอในชีวิตประจำวัน จนเกิดความสนุกในการสร้างผลงานและการค้นหาคอนเสปต์ใหม่ๆ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่น่ารักและเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย
zky.studio มีคอนเสปต์ที่เน้นการสร้างความสุขและความสนุกให้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ผ่านผลงานที่เป็นคาแรกเตอร์น้องหมาและน้องสัตว์ที่มีสไตล์ลายเส้นและสีสันที่มีเอกลักษณ์ เธอหวังว่าผลงานของเธอจะสร้างความสุขและความสนุกให้กับผู้ที่ได้พบเห็น และใช้สินค้าของ zky.studio ได้
worapeachh : ความสุขที่มาพร้อมกับคาแรกเตอร์น้องหมา
แบรนด์ worapeachh นำเสนอความสุขผ่านภาพวาดน้องหมาที่มีลายเส้นเป็น เอกลักษณ์และสีสันที่อบอุ่น เป็นผลงานที่สร้างสรรค์โดย จ้อบ-วรวิช สนิทไทย เจ้าของแบรนด์ที่ได้แรงบันดาลใจจากชีวิตประจำวัน
เขาเริ่มต้นการทำแบรนด์ด้วยความชื่นชอบในการวาดภาพ และเริ่มสะสมผลงานผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย จนเขาค้นพบความสุขในการวาดน้องหมาซึ่งกลายเป็นจุดเด่นหลักของแบรนด์
จ้อบเล่าถึงผลงานที่ชื่อว่า Dog House ซึ่งเขาประทับใจและรู้สึกว่าท้าทายตัวเองมากที่สุด เพราะเขาวาดรูปน้องหมาพันธุ์ดัลเมเชี่ยนมากถึง 100 ตัวในภาพเดียว แล้วนำเสนอเรื่องราวและรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ส่วนน้องหมาที่จ้อบวาดจะมีเอกลักษณ์ที่ตาข้างหนึ่งมีหัวใจอยู่ ซึ่งเขาได้แรงบันดาลใจจากอัลบั้ม Lover ของเทเลอร์ สวิตฟ์ ศิลปินที่เขาชื่นชอบ
การได้ทำสิ่งที่ชื่นชอบและอยากที่จะแบ่งปันความสุขนี้ต่อไปให้กับคนที่มีความสนใจเดียวกัน คือความสุขของเขา และเขาก็หวังว่าแบรนด์ worapeachh จะเป็นแหล่งกำเนิดความสุขและพลังบวกให้กับทุกคนที่พบเห็น ตามคอนเสปต์ของแบรนด์ว่า 'Doggo is happiness'
ดังนั้นแบรนด์
worapeachh จึงไม่เพียงเป็นแค่แบรนด์ศิลปะที่น่ารักเท่านั้น แต่ยังเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ความสุขให้กับทุกคนผ่านภาพวาด ที่ทำให้คนเข้าถึงความสุขอย่างแท้จริงได้ในแบบฉบับของจ้อบและน้องหมาที่เรียบง่ายและน่ารักอย่างไม่ซับซ้อน
ssktmmee: คาแรกเตอร์แก๊งน้องหมาตัวอ้วน
แบรนด์ ssktmmee ถือเป็นแบรนด์ที่เติบโตขึ้นจากความฝันและความกล้าของคนที่มีใจรักในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่น่ารักและน่าติดใจอย่าง ลูกศร-กัณฐมาศ มีศิริ เธอเริ่มต้นสร้างแบรนด์นี้อย่างจริงจัง ในช่วงชีวิตหลังจากเรียนจบ ซึ่งเธอมีประสบการณ์ในการวาดสติกเกอร์ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยในชั้นปีที่ 4 แล้ว และผลงานของเธอยังมีโอกาสในการวางจำหน่ายหน้าร้านอีกด้วย
ลูกศรเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเหตุผลที่เธอสนใจในตัวของน้องหมาที่เป็นคาแรกเตอร์ของแบรนด์ว่า เธอมีความผูกพันเนื่องจากเธอเคยเลี้ยงน้องหมามาก่อน เธอจึงเลือกที่จะนำหมามาใช้และเป็นจุดเด่นสำคัญในการสร้างชิ้นงานภายใต้แบรนด์ของเธอ
"ที่เลือกวาดน้องหมาเพราะว่าเลี้ยงหมาด้วย เรารู้สึกว่าเราเป็นโลกทั้งใบของเขา และชอบคาแรกเตอร์น้องหมาที่หน้าดูกวนๆ เบื่อๆ บางทีก็ซนบ้าง มีหลายอารมณ์ ท่าทางที่น่าวาด ซึ่งหมาแต่ละพันธุ์ก็มีสีมีลายไม่เหมือนกัน"
ผลงานที่เธอชอบมากที่สุดคือพวงกุญแจตุ๊กตาหมา ซึ่งเธอเรียกว่า ท็อปปิ้งด็อก ลูกเล่นของพวงกุญแจนี้คือ ลูกค้าสามารถเปลี่ยนแปลงท็อปปิ้งด้านบนน้องหมาได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น เบคอน แซลม่อน หรือ ไข่ดาว ซึ่งผลงานของแบรนด์ ssktmmee มีลักษณะเฉพาะที่ทำให้ทุกคนที่พบเห็นเกิดรอยยิ้มและความสุข
เธอมีความสุขและภูมิใจมากที่ได้เห็นผลงานของเธอหลังจากออกแบบเสร็จ และการได้รับฟีดแบ็กจากลูกค้าก็เป็นกำลังใจให้กับเธอ สุดท้ายคอนเสปต์ของแบรนด์ ssktmmee ที่ลูกศรฝากถึงเราไว้คือ การให้ความสุขผ่านลายเส้น ซึ่งถูกนำเสนอผ่านคาแรกเตอร์ของตัวเองที่สร้างความสนุกและความสดใสให้กับผู้รับสินค้าได้จริงๆ
pnk.ff: น้องหมาสุดกวนที่สร้างเสียงหัวเราะ
ฟรอยด์-แพรนิกา สินคณารักษ์ เจ้าของคาแรกเตอร์น้องหมาสุดกวน ที่เกิดขึ้นจากความชอบวาดรูปเป็นงานอดิเรก รวมถึงเธออยากมอบพลังบวกให้กับคนรอบข้างผ่านผลงานศิลปะของตนเอง จึงเป็นที่มาของแรงบันดาลใจในการสร้างแบรนด์ pnk.ff ขึ้นมา
เริ่มจากที่เธออยากทำของขายเลยเอารูปที่วาดเอามาต่อยอดขายเป็น โปรดักส์ในงานมาร์เก็ตของคณะในมหาวิทยาลัย พอมีคนเริ่มชอบผลงานที่เธอทำ เธอก็เลยติดใจและทำออกมาหลายอย่างมากขึ้น เธอวาดน้องหมาในคาแรกเตอร์ที่หลากหลาย จนมีโอกาสได้ไปออกบูทวางขายผลงาน ซึ่งก็ได้รับความสนใจอย่างมาก
เธอบอกว่าถึงแม้เธอจะยังไม่มีโอกาสเลี้ยงน้องหมาเป็นของตัวเองในตอนนี้ แต่ในอนาคตเธอก็อยากเลี้ยงมาก เพราะเธอชื่นชอบน้องหมาและชอบคาแรกเตอร์ของมัน ผลงานที่เธอวาดจะมีความไม่เป็นหมาทีเดียว แต่จะเป็นหมาที่ทำอะไรเหมือนคน ซึ่งน้องหมาแต่ละสายพันธุ์ก็มีความน่าสนใจที่แตกต่างกัน
"รู้สึกว่าน้องหมามีอะไรให้เล่นเยอะมากเพราะว่าแต่ละพันธุ์หรือพันธุ์เดียว กันก็มีลาย มีบุคลิก มีนิสัยที่ต่างกันก็จะน่ารักคนละแบบ เป็นความน่ารักที่หมาทำอะไรเราก็โกรธไม่ลง"
ผลงานในรูปแบบงานพิมพ์ 'Not my dog' series เป็นผลงานที่เธอเลือกให้เป็นชิ้นที่ชื่นชอบมากที่สุด และเธอยังต่อยอดจนกลายเป็นนิทรรศการแรกของเธอ ผลงานนี้จะเกี่ยวกับภาพน้องหมาทั้งหมด 10 พันธุ์ อึออกมาเป็นคำว่า LOVE ที่ทำท่าทางเหมือนกัน มีทั้งหมด 100 ใบ ซึ่งเธอเผยว่า ได้ผลตอบรับดีมากๆ และคนที่มาซื้อก็จะมาเลือกว่าน้องหมาตัวไหนเหมือนน้องหมาของตัวเอง
เป้าหมายในการทำแบรนด์ของฟรอยด์คือ อยากให้ผลงานที่เธอออกแบบ สามารถสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับคนที่พบเห็น และหวังว่าทุกคนจะได้รับพลังงานดีๆ ในทุกๆ วัน
ผลงานของทั้ง 5 แบรนด์นี้มีวางจำหน่ายอยู่ที่ร้าน happening shop หากสนใจก็ลองแวะเข้าไปเลือกซื้อหรือทักไปสอบถามที่เพจ happening shop กันได้นะ