YOUNGOHM : ธาตุทองซาวน์

    'ผู้โดยสารโปรดทราบ ขณะนี้ผู้โดยสารกำลังฟังอัลบั้ม ธาตุทองซาวน์ จากยังโอม กรุณาตั้งใจฟังตั้งแต่เพลงแรกเรียงลำดับไปจนถึงเพลงสุดท้าย'

    เสียงประกาศอันคุ้นเคยของ รัดเกล้า อามระดิษ ในแทร็กอินโทรแจ้งให้ผู้ฟังทราบว่า ขณะนี้เรากำลังรับฟังอัลบั้มธาตุทองซาวน์ โดยมีพื้นหลังเป็นย่านเอกมัย จากพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยท้องนาเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ถูกแทนที่ด้วยอาคารสูงจากกลุ่มธุรกิจหลากหลาย และพาให้เอกมัยกลายเป็นย่านที่ใครต่อใครต่างก็อยากมาจับจอง

    ย่านเศรษฐกิจใจกลางเมืองที่อุดมไปด้วยผู้คนหลากเชื้อชาตินี้ คือ จุดเริ่มต้นของชีวิต ความฝัน และความสัมพันธ์ของ โอม-รัธพงศ์ ภูรีสิทธิ์ หรือ ยังโอม (YOUNGOHM) แรปเปอร์แนวหน้าของเมืองไทย และเป็นฉากหลังของอัลบั้มชุดที่สอง ธาตุทองซาวน์ (2023) อัลบั้มที่มาพร้อมกับซาวน์สดใหม่และเรื่องราวชีวิตวัยรุ่นในรั้วโรงเรียนรัฐบาลใจกลางเอกมัย สถานที่ที่เขาและเพื่อนสร้างความทรงจำและค้นหาความฝันร่วมกัน

    ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเหล่าแรปเปอร์หรือมักเกิ้ลที่ไม่ถนัดฟังเพลงบีตหนักเท่าไหร่ ยังไงคุณก็ต้องเคยฟังเพลงของเขาผ่านหูสักครั้ง โดยเฉพาะเพลงใหม่อย่าง ธาตุทองซาวน์ ซึ่งคาดว่าจะขึ้นแท่นเพลงฮิตตลอดกาลที่เปิดทุกเทศกาลสงกรานต์หลังจากนี้ ตลอดจนเพลงฮิตติดชาร์ตที่ปล่อยมาก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็น เฉยเมย (2017), ธารารัตน์ (2019), ก่อนนอนคืนนี้ (2020) และเพลงอื่นอีกมากมาย รวมถึงอัลบั้มเต็มชุดแรก บางกอก เลกาซี่ (BANGKOK LEGACY) ที่ปล่อยมาเมื่อปี 2020 อีกด้วย

    การกลับมาในรอบสองปีพร้อมกับ ธาตุทองซาวน์ ถือเป็นการท้าทายครั้งใหม่ในฐานะศิลปินของยังโอม หลายคนอาจติดภาพจำว่า เขาเป็นแรปเปอร์สายร้องที่มีเสียงเอื้อนเป็นเอกลักษณ์ แต่ในอัลบั้มนี้ คุณจะได้สัมผัสกับสกิลล์การแรปและน้ำเสียงเท่ๆ ที่ต่างไปจากเดิมไม่น้อย เช่นเดียวกับแนวเพลงและเรื่องราวที่หลากหลายกว่าเดิม เรียลกว่าเดิม และสนุกกว่าเดิม

    SMOKING ON THE ROOFTOP รับไม้ต่อจากรัดเกล้า ฉายภาพควันบุหรี่จางๆ บนระเบียงดาดฟ้าที่คุ้นเคย บทสนทนาว่าด้วยวันเก่า และเสียงเปียโนนุ่มๆ ช่วยปูพื้นให้กับผู้ฟังได้มองเห็นภาพรวมในชีวิตของยังโอม ในวันที่เริ่มต้นจากศูนย์ มีเพียงแค่ความฝันและพ้องเพื่อน วันนี้เขาพิสูจน์ตัวเองจนกลายเป็นแรปเปอร์และไอดอลให้กับเด็กรุ่นใหม่

    ก่อนที่ ไอจ๊อด ดีลเลอร์กัญชาจากคลองเตยจะพาทุกคนไปสนุกกับบรรยากาศวงสูบ พร้อมกับบีตนุ่มๆ ในจังหวะมีเดียม (Medium) ไม่ต่างจากเพลงก่อนหน้า ในอัลบั้มนี้มีการพูดถึงสารเสพติดอย่างตรงไปตรงมาอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเพลง โรเช่ ที่หยิบอาการหลอนจากการใช้ยานอนหลับผิดวิธีมาเล่าเป็นวิทยาทาน หรือ สกัดดาวรุ่ง ที่ได้ Bozo มาร่วมแจมในการเตือนให้รุ่นน้องสูบกัญชาให้ถูกที่ถูกทาง ในดนตรีแทร็ปและโฟลวเท่ๆ ชวนคนให้โยกตัวทำทรงเท่ๆ ไปด้วยกัน

    ผ่านไปไม่กี่แทร็ค เราก็เริ่มเห็นภาพการเติบโตของเด็กคนหนึ่ง ในเมืองที่ขยับขยายอย่างก้าวกระโดดยังมีผู้คนที่ถูกผลักให้ไกลออกจากสังคมขึ้นเรื่อยๆ และการเข้าถึงยาเสพติดดูจะเป็นเรื่องง่ายเมื่อเทียบกับการไล่ตามความฝัน

    เช่นเดียวกับการศึกษาที่ไม่อาจตอบโจทย์ความฝันอันหลากหลาย หมาป่ารอวันหอน และ ธาตุทอง เอกมัย เป็นสองแทร็กหลักๆ ที่ชูโรงเรื่องการเรียนและความฝันของโอมและเพื่อน เราเห็นการเปลี่ยนแปลงของโอม จากเด็กหน้าห้องตั้งใจเรียนในเพลงหมาป่ารอวันหอน กลับถูกเหยียบย่ำความฝัน เพียงเพราะฝันนั้นไม่ใช่สิ่งที่สังคมยอมรับ และการก้าวออกจากระบบการศึกษา เมื่อพบว่าโรงเรียนอาจไม่ใช่คำตอบของความฝันนี้

    โอมตอกย้ำภาพชีวิตของชนชั้นล่าง ด้วยเพลง ข้างล่าง ที่บอกให้ผู้ฟังรู้ว่าตัวเองมาจากไหน และผ่านเรื่องราวแบบไหนมาบ้าง เราเห็นถึงชีวิตของคนชายขอบที่มีทั้งมิตรภาพ การหักหลัง และความหวังในการมีชีวิตไม่ต่างจากผู้คนอีกมากมายในสังคม

    ขณะเดียวกัน เราก็สัมผัสได้ถึงความภูมิใจของโอมที่มีต่อชีวิตและผู้คนรอบตัวในหลายเพลง โดยเฉพาะเพลง ธาตุทองซาวน์ ตัวท้อปประจำอัลบั้มนี้ก็ชูตัวตนและสร้างภาพจำใหม่ให้กับเพื่อนสาวที่ถูกสังคมตีตราว่าเป็นสก๊อย ในแนวเพลงที่เราคุ้นเคยกันดี อย่างสามช่า รถแห่ และฮิปฮอป ถือเป็นอีกเพลงที่สดใหม่ทั้งเนื้อหาและแนวเพลง แถมมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ ยังมีเทคนิคถ่ายทำที่น่าตื่นตาตื่นใจ และชูโรงความเป็นไทยได้อย่างมีสไตล์สุดๆ เรียกได้ว่า อีกี้ กลายเป็นไอดอลสาวที่ใครๆ ต่างก็ขอคัฟเวอร์ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา

    อาจเพราะอ่อนไหวกับเรื่องครอบครัว ส่วนตัวเลยชอบเพลง HOW I LIKE, Pt.2 เป็นพิเศษ เราสัมผัสถึงมุมมองความสัมพันธ์ของโอมและครอบครัว ในวันที่ตัดสินใจเดินตามความฝัน ภาพความยากลำบาก ความเหลื่อมล้ำในสังคม และโอกาสอันน้อยนิดที่เขาพยายามไขว่คว้า ตลอดจนความรัก ความห่วงใย และการซัพพอร์ตจากครอบครัว พร้อมกับคำขอบคุณที่โอมมีต่อครอบครัว ประกอบกับเสียงเปียโนที่เคล้าคลอไปกับซาวน์อิเลกทรอนิกส์ ยิ่งฟังแล้วรู้สึกอบอุ่นหัวใจและเศร้าใจในเวลาเดียวกัน

    โดยเฉพาะท่อน 'และมันไม่ง่ายเลย ที่จะใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการ แต่เป็นไปไม่ได้เลย มันไม่เคยมีจริงไม่ว่ายังไงก็ตาม ถึงจะมีโอกาสแค่ 0.2 เปอร์เซ็น มันก็ยังมีก็เอาให้เลือดกระเด็น แล้วมันจะเป็นยังไงมันก็ต้องเป็น' ถือเป็นวรรคทองของเพลงนี้ที่ฟังแล้วกระทบใจจริงๆ

    แน่นอนว่า ในอัลบั้มนี้โอมยังคงไม่ทิ้งเอกลักษณ์อย่างการแรปเอื้อนจีบสาวแบบเท่ๆ อย่างเพลง Very Very Small ที่เล่าถึงความรักในวัยเรียน ขณะที่ สายน้ำผึ้ง และ เด็กอินเตอร์ โอมหยิบเรื่องราวการแอบรักสาวต่างโรงเรียนมาเล่าเป็นเพลง ถ้าคุณชอบเพลง ธารารัตน์ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บอกเลยว่า สามเพลงนี้จะต้องถูกใจคุณอย่างแน่นอน

    ไม่บ่อยนักที่เราจะได้ยินดนตรีแนวยูเคการาจ (UK Garage, UKG) ในเพลงไทย ซึ่งเพลง ธาตุทอง เอกมัย ก็ถือว่าทำซาวน์ได้เข้ากับไรม์ของโอมเลยทีเดียว ขณะที่เพลงรักจีบสาว อย่าง สายน้ำผึ้ง และ เด็กอินเตอร์ ก็มีกลิ่นอาย แอโฟรบีตส์ (Afrobeats) เป็นซาวน์จากฝั่งแอฟริกา และด้วยเมโลดี้และบีตหนักๆ ตามแบบฉบับเพลงฮิปฮอป ทำให้คนทั่วไปสามารถสนุกไปกับการรับฟังเนื้อหาชีวิตได้อย่างสบายๆ

    นึกถึงเมื่อครั้งที่เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาค่อนข้างสนใจแนวดนตรีใหม่ๆ และอยากจะฟังเพลงให้ครบทุกแนวบนโลก นอกจากนี้ ในอัลบั้มก็มีซาวน์ที่สดใหม่อยู่หลายเพลง แถมยังผสมผสานกันจนพาให้ภาพรวมของอัลบั้มนี้ชัดเจนขึ้นกว่าเดิม

    ความพิเศษของอัลบั้มนี้ไม่ได้มีเพียงแค่แนวเพลงสดใหม่หรือเรื่องราวที่กลั่นกรองจากประสบการณ์ส่วนตัวออกมาอย่างจริงใจ แต่ยังเป็นอัลบั้มที่เขามีโอกาสได้ทำงานร่วมกับเพื่อนวัยเด็กด้วย โดยเฉพาะ เจ SONOFO เพื่อนสนิทวัยมัธยมที่เป็นส่วนหนึ่งในการทำเพลงและแรปร่วมกับโอมในอัลบั้มชุดนี้ด้วย

    แม้แต่ละเพลงจะมีเรื่องชูโรงเป็นของตัวเอง แต่หากฟังดีๆ จะเห็นได้ว่าทุกเพลงในอัลบั้มนี้ เขามักจะใช้ภาษาง่ายๆ เล่าถึงชีวิตอย่างตรงไปตรงมา จริงใจ และแฝงไปด้วยแนวคิดที่มีต่อสังคมในหลายๆ ด้านในเพลงเดียวกัน เราอาจเห็นเขาพูดถึงคนรัก การเมือง สภาพสังคม ไปพร้อมกับความสัมพันธ์ของเพื่อนพ้อง คนรัก และ ครอบครัว

    เสียงจากเด็กวัด คือแทร็กสุดท้ายที่ทำหน้าที่พาเรากลับมาสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง เสียงแคนและซาวน์แบบไทยๆ ถูกผสมผสานกับบีทเพลงแทร็ปอย่างลงตัว โอมพาเรามาสู่บทสรุปของชีวิต ตลอดการวิ่งไล่ตามความฝันครั้งนี้ ความสนุก คือเชื้อเพลิงหลักที่พาให้เขามาถึงวันนี้ได้ และเขาได้ทิ้งท้ายด้วยประโยคสั้นๆ ที่ช่วยต่อเติมกำลังใจให้กับผู้ฟังอย่างเราๆ แต่เขาจะพูดว่าอะไรนั้น เราขออุบไว้ และหวังให้คุณจะไปค้นพบด้วยตัวเอง

    แม้อัลบั้มนี้จะฉายภาพที่เป็นส่วนตัวมากๆ ของศิลปิน แต่เรื่องราวในแต่ละเพลงก็พาให้เรามองเห็นภาพทับซ้อนในความทรงจำส่วนตัวไปพร้อมกัน 19 เพลงในอัลบั้มให้อารมณ์เหมือนกำลังดูซีนหนังชีวิตที่มีโอมเป็นนักแสดงหลักร่วมกับเหล่าเพื่อนพ้องในรั้วโรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง โดยมีตัวชูโรงเป็นความฝัน ความรัก ความสัมพันธ์​ และความทรงจำส่วนตัว ผสมปนเปกับความคึกคะนอง ความเชื่อ ความไม่เข้าใจ ยาเสพติด และฉากมืดของสังคม ในสัดส่วนที่แตกต่างกันไป จนได้หนังชีวิตความยาว 72 นาที ที่รับฟังได้เพลินๆ กลมกล่อม และเต็มไปด้วยรายละเอียด จนทำให้เห็นว่าชีวิตของเด็กที่ต้องไล่ตามความฝัน ท่ามกลางความเหลื่อมล้ำและระบบการศึกษาที่ไม่ตอบโจทย์ความหลากหลาย พวกเขาต้องเจอกับเรื่องราวแบบไหนบ้าง

    แล้วตัวเราที่อยู่ในสังคมนี้กำลังมีชีวิตอย่างไร กำลังวิ่งตามความฝันแบบไหน และขบวนรถไฟที่จอดอยู่นี้จะขับเคลื่อนไปในทิศทางใด ...นั่นคือคำถามที่ 19 บทเพลงในอัลบั้มธาตุทองซาวน์ทิ้งท้ายไว้ให้กับผู้ฟังแบบเรา

นิษณาต นิลทองคำ

กองบรรณาธิการที่กำลังใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน ชอบคุยกับผู้คน ท้องฟ้า และเสียงดนตรี เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการฟังเพลง ที่บางทีก็ปล่อยให้เพลงฟังเรา