นอกจากนี้ ยังมีเทศกาลศิลปะประจำปีอย่าง Chiang Mai Design Week ที่เปิดพื้นที่ให้เหล่าศิลปินและคนรักงานศิลปะได้มาพบกัน ไม่ว่าจะเป็นนิทรรศการศิลปะ การจัดโชว์เคส ตลาดจำหน่ายงานดีไซน์และของคราฟต์ งานดนตรี รวมถึงกิจกรรมสร้างสรรค์มากมายอย่าง การเสวนา และเวิร์กช็อปที่ทุกคนมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมได้ โดยในปี 2021 นี้ พวกเขากลับมาในธีม Co-Forward เชื่อมโยง ฟื้นฟู ก้าวไปด้วยกัน โดยมีหลายสถานที่ร่วมจัดงานทั้งในตัวอำเภอเมืองเชียงใหม่และอำเภอสันกำแพง ตั้งแต่วันที่ 4 - 12 ธันวาคม 2564
ว่าแต่.. คุณสงสัยไหมว่าทำไมเชียงใหม่จึงอุดมไปด้วยเหล่านักสร้างสรรค์?
เรามีโอกาสได้พูดคุยกับ ถิง-ชลธิชา สุจริตพินิจ หรือ ถิง ชู ศิลปินอิสระที่หลงใหลในภาพวาดและงานเซรามิก และ หนึ่ง–เกรียงไกร วงษ์วานิช มือกีตาร์จากวง FRIDAY หรือที่เรารู้จักกันในชื่อว่า หนึ่ง Sleeper One ทั้งคู่เป็นศิลปินที่คลุกคลีและใช้ชีวิตอยู่ในเมืองเชียงใหม่มานานกว่า 10 ปี และมองเห็นการเติบโตของพื้นที่สร้างสรรค์ในเมืองเชียงใหม่มาโดยตลอด
"มีคนเคยบอกว่า ถ้าเราลองเขวี้ยงหินไปบนถนนของเมืองเชียงใหม่ มันจะกลิ้งไปเจออยู่สองอย่าง ไม่ศิลปินก็ร้านกาแฟ" หนึ่งพูดไปหัวเราะไป
เขาเป็นหนึ่งคนที่ย้ายถิ่นฐานจากกรุงเทพมหานครมาอยู่ที่เชียงใหม่ และเป็นเจ้าของ Asleeper Cafe and Campground เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสบรรยากาศในย่านหางดง นอกจากนี้ ชั้นสองของคาเฟ่ยังมีสตูดิโอทำเพลง SL1 ที่มีพื้นที่สำหรับทำ Live Session ในบรรยากาศดาดฟ้าที่เห็นวิวพระอาทิตย์ตกอีกด้วย
หนึ่งบอกกับเราว่า เมืองเชียงใหม่มี 3 สิ่งที่คอยบ่มเพาะศิลปะ ได้แก่ สภาพอากาศ พื้นที่ และผู้คน
"อากาศในเมืองเชียงใหม่มันชัดเจน มีร้อน ฝน หนาว พออากาศเปลี่ยน บรรยากาศที่ส่งผลต่อผู้คนหรือความคิดก็เปลี่ยนตาม เราจะรู้สึกได้รับแรงบันดาลใจตลอดเวลา ด้วยความที่เมืองเชียงใหม่เป็นเมืองช้าๆ ไม่ต้องเร่งรีบเหมือนในกรุงเทพฯ คนมีเวลาพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน เราค่อยๆ ประณีตกับงานที่ทำได้ แล้วพอได้มาอยู่รวมตัวกับผู้คนที่มีความสนใจเหมือนกัน มันยิ่งส่งเสริมให้พื้นที่นี้เหมาะกับการให้ศิลปิน"
แม้ปัจจุบันถิงจะย้ายมาอยู่ในกรุงเทพมหานคร เพื่อดูแล Ting Chu Studio สตูดิโอศิลปะที่เปิดให้ผู้คนเข้ามาเรียนรู้เกี่ยวกับภาพวาดและงานเซรามิก แต่เธอก็เป็นหนึ่งคนที่ใช้ชีวิตในเมืองเชียงใหม่ตั้งแต่เด็ก
"นอกจากเป็นเมืองท่องเที่ยวแล้ว เชียงใหม่ยังเป็นเมืองมหาวิทยาลัย ด้วยค่าครองชีพที่ไม่ได้สูงมาก เมืองนี้จึงเป็นเหมือนพื้นที่ทดลองของเด็กที่เพิ่งจบใหม่ เราไม่ได้มีเรื่องเงินมาเป็นข้อจำกัดมากเท่าในกรุงเทพฯ เราก็มีเวลาทดลองในสิ่งที่เราสนใจมากขึ้น พอได้ลองอะไรใหม่ๆ มากขึ้น พอคนเริ่มอยู่กันมากขึ้น ความเข้มข้นของชุมชนก็ยิ่งเพิ่มขึ้น มันเลยเกิดความหลากหลายในคอมมูนิตี้ ยิ่งพอได้รับการสนับสนุนและมีการขยายพื้นที่ของคนในคอมมูนิตี้มากขึ้น จากพื้นที่ที่ไม่เคยมีคนสนใจ พอมีคนไปเปิดร้านคาเฟ่น่ารักๆ พื้นที่นั้นก็เริ่มเติบโตขึ้น มันถือว่าเป็นการเติบโตที่ก้าวกระโดดมาก เรามองว่าการสนับสนุนคนในคอมมูนิตี้เป็นสิ่งสำคัญ เราต้องไว้ใจสังคม ไว้ใจชุมชน" ถิงเล่า
เมื่อเมืองเชียงใหม่แวดล้อมไปด้วยผู้คนที่รักในงานศิลปะ การที่ผู้คนได้ออกมาใช้ชีวิต พบปะ สังสรรค์กัน จึงเปรียบเสมือนการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่ค่อยๆ ซึมซับผ่านกิจวัตรประจำวัน
ถิงเล่าถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในเมืองเชียงใหม่ เมื่อศิลปะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คน "ศิลปะมันถูกแลกเปลี่ยนและแบ่งปันจากชีวิตประจำของผู้คน ทุกคนอยากให้บ้านตัวเองน่าอยู่ แล้วสุนทรียะการตกแต่งที่เราเลือกใช้ มันเกิดจากการได้พูดคุย ได้เห็น ได้่ซึบซับจากคนในคอมมูนิตี้นั้นๆ เช่นกัน อย่าง ศิลปินไปกินข้าว เจอถังขยะใบหนึ่งแล้วรู้สึกว่ามันสวยมาก เจ้าของบ้านอาจจะไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกัน แต่การได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกัน วันหนึ่งเขาก็อาจจะมองว่าถังขยะใบนี้สวยเหมือนกันก็ได้ มันเป็นการหลอมลวมวัฒนธรรม"
หนึ่งเองก็มองว่าศิลปะกับวัฒนธรรมในเมืองเชียงใหม่กำลังหลอมรวมกันอย่างกลมกล่อมมากขึ้น "อย่างสถาปัตยกรรมยุคใหม่ที่มีความโมเดิร์น ทันสมัย เราอาจจะเห็นงานเพนท์ที่เป็นลายกนกน้อยลง แต่เราก็ยังเห็นลายเซ็นและกลิ่นอายของความเป็นคนเชียงใหม่อยู่ คล้ายกับทางอีสานที่มีการผสมผสานวัฒนธรรมกับงานศิลปะหลายๆ แบบได้ดี"
เราไม่เพียงชวนทั้งสองคนมาพูดคุยถึงบรรยากาศสร้างสรรค์ในเมืองเชียงใหม่ แต่ยังชวนพวกเขามาพูดคุยถึงแบรนด์ที่น่าสนใจใน Chiang Mai Design Week 2021 ที่มีเอกลักษณ์และหลอมรวมวัฒนธรรมเชียงใหม่ไว้ได้อย่างลงตัวอีกด้วย
จะมีแบรนด์ไหนที่โดนใจคุณบ้างนั้น ไปชมกันเลย!
ใครชอบเสื้อยืดลายน่ารักๆ คงจะถูกใจสิ่งนี้ไม่น้อย days in and days out เป็นแบรนด์เสื้อทำมือที่ใช้เทคนิคการพิมพ์ลายแพทเทิร์นลงบนผ้าด้วยมือ พวกเขาเริ่มต้นจากการแกะสลักลวดลายน่ารักๆ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสรรพสัตว์และธรรมชาติรอบตัว ก่อนจะนำค่อยๆ พิมพ์ลายลงบนผ้าที่ละลายจนเต็มผืน ก่อนจะนำมาตัดเย็บจนเป็นเสื้อที่น่ารักและสวมใส่สบาย ราวกับเป็นงานศิลปะที่สวมใส่ได้ และสะท้อนให้เห็นความตั้งใจของศิลปินอย่างชัดเจน
"เราประทับใจตรงการทำพิมพ์และแกะลายเอง ซึ่งทำให้รู้สึกถึงความตั้งใจในการทำลายผ้าและเสื้อแต่ละตัวที่ออกมา บวกกับการผสมผสานลายต่างๆ ที่ดึงเอาความเรียบง่ายแต่สดชื่นน่ารักออกมาได้ดีค่ะ" ถิงบอกกับเรา
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: days in and days out
เสื้อตัวนี้มีชิ้นเดียวบนโลก! ZAYAN เป็นแบรนด์เสื้อโฮมเมดที่เนรมิตผ้าผืนเก่าให้กลายเป็นเสื้อตัวใหม่ จากเสื้อย้อมครามและผ้าเช็ดหน้าลายลูกน้ำที่เราเห็นตามร้านขายของฝากจนชินตา ศิลปินได้หยิบเอาเอกลักษณ์ของผ้าแต่ละผืนมาดีไซน์และจัดวางใหม่ จนเกิดเป็นหมวก เสื้อ และกระเป๋าดีไซน์สวยที่ไม่ซ้ำใคร และสร้างมูลค่าให้กับของชิ้นเดิมได้เป็นอย่างดี
ถิงเล่าถึงความประทับใจที่มีต่อแบรนด์ว่า "เราเคยเห็นงานของเขามาก่อนหน้านี้ แต่ไม่เคยรู้ว่าเขาอยู่ที่เชียงใหม่ เราชอบที่เขานำสิ่งเดิมมาทำใหม่ มันไม่ใช่แค่เสื้อมือสอง แต่ศิลปินได้มีการใส่เอกลักษณ์ จินตนาการ และประสบการณ์ส่วนตัวเข้าไปด้วย เราสัมผัสได้ถึงแพชชั่นของศิลปินผ่านชิ้นงานของเขา"
ขณะที่หนึ่งเองก็ชื่นชอบสไตล์งานและการที่แบรนด์ต่อยอดจากสิ่งที่มีอยู่ "ส่วนตัวเราเป็นคนชอบงานกราฟิกที่ใช้เรขาคณิตเป็นส่วนประกอบอยู่แล้ว อีกสิ่งที่ชื่นชอบคือ การที่ศิลปินสามารถนำเสนอตัวตนได้ชัดเจนและแตกต่างจากคนอื่น มันเป็นข้อดีที่ทำให้คนจดจำแบรนด์ของเราได้"
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: ZAYAN
แม้จะเป็นต่างหูที่มีดีไซน์ทันสมัย แต่สำหรับหนึ่งเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความเป็นเชียงใหม่อยู่ไม่น้อย "นึกถึงสมัยก่อนที่คนเชียงใหม่จะชอบใส่ต่างหูที่เป็นลูกกลมๆ แบบนี้ ไม่แน่ใจว่าศิลปินได้แรงบันดาลใจมาจากสิ่งนี้ไหม แต่เห็นครั้งแรกแล้วรู้สึกว่าเป็นแบรนด์ต่างหูที่ทันสมัย และสะท้อนวัฒนธรรมชาวเหนือได้น่ารักดีครับ"
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: palebluedot.co
"เราไม่เคยรู้จักแบรนด์นี้มาก่อน พอได้เห็นงานแต่ละชิ้นแล้วเรารู้สึกชอบมาก เพราะไม่ค่อยเห็นใครทำงานในรูปแบบนี้เท่าไหร่ เรารู้สึกว่า Nympheart เป็นอีกแบรนด์ที่จับเอกลักษณ์ของสินค้าและนำเสนอได้อย่างน่าสนใจ ผลงานแต่ละชิ้นเท่และมีสไตล์โดดเด่นมากๆ ครับ" หนึ่งเล่าถึงความชอบที่มีต่อชิ้นงาน
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: Nympheart
นอกเหนือจากเทียนหอมแล้ว แบรนด์ CINDER AND SMOKE ยังมีสินค้าอื่นๆ อย่างสมุดทำมือ สติกเกอร์ลายสัตว์ต่างๆ และชิ้นงานศิลปะแบบคอลลาจที่ปะติปะต่อจากเรื่องเล่าและความชอบของลูกค้าอีกด้วย นี่จึงเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ผสมผสานตัวตนของศิลปินและความสนใจของกลุ่มลูกค้าไว้อย่างลงตัว
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: CINDER AND SMOKE
หนึ่งรู้สึกประทับใจในการต่อยอดชิ้นงานจากวัสดุเหลือใช้ "จริงๆ ทางภาคเหนือเองก็ขึ้นชื่อในการทำเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้วัสดุเป็นไม้ งานนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งงานที่เอาไม้มาใช้ต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และนำเสนอสไตล์งานได้ไม่ซ้ำใคร"
ขณะที่ถิงรู้สึกชื่นชอบการนำเสนอตัวตนของศิลปิน "เราชอบการเล่าเรื่องที่เป็นแอนิเมชั่นสั้นๆ ในโซเชียลของเขา บุคลิกของตัวละครมันน่ารัก ดูแล้วสดชื่นดีค่ะ มันสะท้อนให้เห็นว่า เขาสนุกและเอนจอยกับการทำงานนี้จริงๆ ซึ่งกระบวนการนี้มันสำคัญสำหรับคนทำงานคราฟต์ คนที่ได้รับไปน่าจะสัมผัสได้ถึงความตั้งใจของเขา"
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: wildywood
{JUN} ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์เสื้อร่วมสมัยที่ถิงและหนึ่งเห็นตรงกันว่า ศิลปินนำ เอกลักษณ์ของเสื้อพื้นเมืองมาประยุกต์ให้เหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว ยกตัวอย่างเช่น เสื้อคลุมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชุดชาวจีนในอดีต ซึ่งศิลปิน ได้นำมาดีไซน์ใหม่ และมีการออกแบบสีและลายผ้าที่เป็นเอกลักษณ์อีกด้วย
"เขาผสมผสานความเป็นล้านนากับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ร่วมสมัยและลงตัวมาก ไม่ใช่แค่ทำเพื่อให้ลวดลายเก่าๆ ยังคงอยู่ หรือเป็นการหยิบลายดั้งเดิมมาใช้ แต่เขามีการดีไซน์และประยุกต์ให้มันใช้ได้ในชีวิตประจำวัน เลยรู้สึกชอบมากๆ ค่ะ" ถิงเล่าถึงความประทับใจที่มีต่อแบรนด์
"มันเป็นการยกระดับงานพื้นเมืองให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและเพิ่มมูลค่าได้อย่างดี รู้สึกว่าเป็นดีไซน์ที่เห็นแล้วไม่รู้สึกเขินที่จะใส่" หนึ่งเสริมชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: {JUN}
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: Kaptor Store
คงจะดีไม่น้อย หากเราสามารถคงสภาพความงามของดอกไม้ให้นานขึ้นอีกนิด Getnature เป็นแบรนด์เครื่องประดับที่นำเสนอความงามของดอกไม้ เนรมิตให้กลายเป็นเครื่องประดับที่มีความหมายต่อผู้รับ อีกทั้งยังมีคอลเลกชั่นที่ผสมผสานระหว่า งงานเรซิ่นดอกไม้และหินนำโชค ยิ่งช่วยเพิ่มมูลค่าและคุณค่าทางใจมากกว่าเดิม
ด้วยสีสันและลวดลายที่ถูกดีไซน์มาอย่างดี ทำให้หนึ่งรู้สึกประทับใจในความประณีตของศิลปิน "งานของเขาสวยและประณีตมากๆ รู้สึกว่าเป็นงานที่มีคุณภาพและ น่าจะเป็นที่สนใจของทั้งคนไทยและต่างประเทศ มันเป็นงานที่ยกระดับความเป็นล้านนา ได้ดีมากๆ ทั้งตัวโปรดักซ์และวิธีการพรีเซนต์สินค้า มองแล้วรู้สึกประทับใจมาก"
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: Getnature
happening ร่วมกับ Chiang Mai Design Week 2021 จัดแคมเปญพิเศษ สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าของแบรนด์ทั้ง 9 แบรนด์จาก Pop Market ในปีนี้ คือ days in days out, ZAYAN, palebluedot.co, Nympheart, CINDER AND SMOKE, wildywood, {JUN}, Kaptor Store, Getnature ตั้งแต่วันที่ 4-31 ธันวาคมนี้ ผ่านทางเว็บไซต์ happeningandfriends.com
ทีมงานจะสุ่มผู้โชคดี 2 ท่าน รับของที่ระลึกสุดพิเศษจาก ถิง ชู (เป็นผลงานชุดเครื่องปั้นดินเผาพร้อมน้ำมันหอมระเหย มูลค่าราว 1,500 บาท) และ หนึ่ง–เกรียงไกร วงษ์วานิช (เป็นแผ่นเสียงรวมเพลงเด่นจากค่าย No More Belts มูลค่า 1,500 บาท) โดยได้รับคนละ 1 ชิ้น แคมเปญนี้จะประกาศรางวัลหลังเทศกาลปีใหม่ ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก happening mag
2189 VIEWS |
กองบรรณาธิการที่กำลังใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน ชอบคุยกับผู้คน ท้องฟ้า และเสียงดนตรี เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการฟังเพลง ที่บางทีก็ปล่อยให้เพลงฟังเรา