เป็นปกติที่เหล่าศิลปินจะมีการปรับลุคให้เหมาะกับแนวเพลงในแต่ละอัลบั้มที่ปล่อยออกมา เพื่อเชื่อมโยงความรู้สึกระหว่างศิลปิน บทเพลง และผู้ฟัง ผ่านภาพและเสียงที่ได้สัมผัส
บีน-นภสร ชัยพรเรืองเดช เองก็เป็นหนึ่งในนั้น เธอเริ่มต้นจากการเป็นสาวผมสั้นที่พกพาความเจ็บปวดมาพร้อมกับดนตรีแบบ Soul Pop ในเพลง ครั้งสุดท้าย (2017) ก่อนที่เธอจะกลับมาพร้อมกับลุคนักศึกษาสุดน่ารักกับเรื่องราวการรอคอยความรัก ในเพลงจังหวะช้าๆ อย่าง รอฟังคำนั้น (2018) และสาวผมดัดสุดติสท์ ผู้รังสรรค์รายละเอียดทางดนตรี ในเพลง คนที่ใช่ไม่ต้องพยายาม (2019)
หลังจากรับบทเป็นหญิงสาวที่อกหักจากความรักมาถึง 3 เพลง บีนก็สลัดความเศร้าทิ้ง แล้วส่งเพลง อยากกอด (2020) มาบอกแทนความคิดถึงของคนไกลกัน ซึ่งในครั้งนี้ เราได้เห็นเธอในลุคกางเกงยีนส์ขายาวและเสื้อคลุมสีขาว ดูขี้เล่นไม่ต่างกับเพลงของเธอ ล่าสุด ในเพลง ไม่อยากเป็นเพื่อนกับแฟนเก่า บีนได้เปลี่ยนลุคอีกครั้ง และสร้างความแปลกใจให้กับแฟนๆ อย่างมาก เมื่อเธอเปลี่ยนสีผมและสวมเสื้อครอป กางเกงยีนส์ในลุคเท่ๆ ต่างจากเดิม ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากแฟนๆ เป็นอย่างดี จนเกิดเป็นภาพแฟชั่นเซ็ตชุดใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสไตล์การแต่งตัวและท่วงทำนองในบทเพลงของเธอ
"ย้อนกลับไปช่วงโควิด-19 รอบแรก บีนมีโอกาสได้คัฟเวอร์เพลง ต้องทำอย่างไร ของพี่ปอย (ตวัน ชวลิตธำรงค์) Portrait แล้วพี่พล (คชภัค ผลธนโชติ) ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์รู้สึกว่า พอบีนร้องเพลงแบบไม่มีลูกเอื้อนเยอะก็ดีเหมือนกัน ที่ผ่านมาบีนจะติดโฟลวแบบอาร์แอนด์บีเยอะ พอทำเพลง ไม่อยากเป็นเพื่อนกับแฟนเก่า บีนเลยมีโอกาสได้ทดลองวีธีร้องเพลงแบบใหม่ๆ ค่ะ"
แล้วการเปลี่ยนลุคให้ศิลปินสาวก็มาถึง ด้วยท่วงทำนองที่ช้าๆ แต่หนักแน่นไปด้วยจังหวะ จึงเป็นที่มาของลุคใหม่ของบีนที่ดูเท่และทะมัดทะแมงกว่าเดิม บีนบอกกับเราว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอลองทำสีผมสีน้ำตาลเทาหม่นๆ อีกด้วย
"ก่อนหน้านี้บีนเคยลองดัดผม ตัดผมสั้นบ้าง ถ้านับจากตอนนั้นมันก็ผ่านมา 4-5 ปีแล้ว เราเองก็ได้ทดลองหลายๆ สไตล์ ในเพลงนี้ บีนได้ลองทำสีผมโทนสีน้ำตาลเทาเป็นครั้งแรก พอได้สีผมที่เหมาะกับเราแล้ว เราก็เริ่มมองหาเสื้อผ้าที่เหมาะกับบีน อย่างลุคในเอ็มวีทุกคนจะเห็นบีนใส่เสื้อแขนกุด กางเกงขายาว ซึ่งเป็นสไตล์ที่บีนชอบใส่ แต่พอเราเปลี่ยนสีผม เปลี่ยนสไตล์การแต่งหน้า ก็ทำให้ดูโตขึ้น ดูมีอะไรมากขึ้น"
"เราได้กระแสตอบรับที่ดีมากๆ จากทั้งคนรอบตัวและคนที่ติดตามเราอยู่ ส่วนใหญ่เขามักจะบอกว่า เราดูสวย ดูโตขึ้นนะ ปกติบีนจะเป็นคนลุยๆ สบายๆ วันไหนไม่อยากแต่งหน้าก็ไม่แต่ง แต่พอเราลองทำผมสีนี้ เราสนุกกับการแต่งตัวมากขึ้น เริ่มอยากแต่งหน้าให้เก่ง ได้ลองเขียนอายไลเนอร์ทุกวัน บีนรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ด้วยลุคที่เราชอบและสีผมที่ทำให้เราดูดีขึ้น ยิ่งพอโดนชมแล้วก็รู้สึกมีความมั่นใจและชอบตัวเองมากขึ้น มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีมากๆ เลย"
จากความชื่นชอบในลุคนี้ของทั้งเหล่าแฟนเพลงและตัวเธอเอง จึงเกิดเป็นโปรเจกต์ถ่ายภาพแฟชั่นสุดเท่ ซึ่งเธอได้เปลี่ยนลุคของตัวเองอีกครั้ง ด้วยการหยิบกางเกงขาสั้นและเสื้อคลุมยีนส์สีดำมาสวมใส่ จากที่มักเห็นเธอใส่เสื้อแขนกุดและกางเกงยีนส์ขายาว
การปรับลุคในครั้งนี้ ทำให้เธอได้เห็นแนวทางใหม่ๆ และสนุกกับการแต่งตัวมากขึ้นกว่าเดิม เธอยังบอกอีกว่า เธอเห็นบุคลิกที่แตกต่างกันของตัวเอง ทุกครั้งที่มีโอกาสได้เปลี่ยนแนวการแต่งตัว
"บีนรู้สึกว่าการแต่งตัวมันสะท้อนถึงบุคลิกและนิสัยของแต่ละคนได้ อย่างบีนชอบใส่กางเกงยีนส์ มันเป็นกางเกงที่ทุกคนใส่ได้ จับคู่กับอะไรก็ได้ เราเปลี่ยนเสื้อ เครื่องประดับ เวลาเห็นคนใส่กางเกงยีนส์ บีนจะรู้สึกว่าเขาดูเป็นคนเท่ๆ ง่ายๆ เหมือนกับตัวบีนเองที่เป็นคนลุยๆ สบายๆ ค่ะ"
และไม่ว่าลุคของเธอจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน แต่บทเพลงของเธอจะยังคงบอกเล่าตัวตน และส่งมอบเรื่องราว ความรู้สึกไปถึงผู้ฟังได้อย่างลึกซึ้งเช่นเคย
2633 VIEWS |
กองบรรณาธิการที่กำลังใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน ชอบคุยกับผู้คน ท้องฟ้า และเสียงดนตรี เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการฟังเพลง ที่บางทีก็ปล่อยให้เพลงฟังเรา