8 ปีที่แล้ว เรามีโอกาสได้ทำความรู้จักเสียงเพลงของ ตูน-โชติกา คำวงศ์ปิน หรือ 'Stoondio' กราฟิกดีไซเนอร์ที่พ่วงตำแหน่งศิลปะอิสระ เจ้าของเพลงฮิตอย่าง ยินดีที่ได้พบเธอ, untitled 001, เสียดาย ฯลฯ ด้วยเนื้อเสียงอันเป็นเอกลักษณ์และเนื้อหาโดนใจ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลายคน เลือกหยิบเพลงของ Stoondio มาเป็นเพื่อนร่วมทางในวันที่ผิดหวังในความรักและต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ..ตัวเราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

    หลังห่างหายจากการทำอัลบั้มไปพักใหญ่ เธอกลับมาอีกครั้งพร้อมกับอัลบั้ม 'Post Adrenaline Blues' ที่ร้อยเรียงความสัมพันธ์ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดผ่าน 9 บทเพลงความหมายดี ให้ความรู้สึกราวกำลังรับชมหนังรักเรื่องหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น ขณะเดียวกัน ภาพถ่ายและการจัดวางตัวอักษรภายในอัลบั้มเองก็มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์และน่าสนใจ มองแล้วจำได้ทันทีว่าเป็นอัลบั้มของ Stoondio

    แม้เดิมที เราจะคุ้นชินกับเสียงกีต้าร์โปร่งและเพลงช้าฟังสบาย แต่เพลงส่วนใหญ่ในอัลบั้มนี้ กลับมีองค์ประกอบของเครื่องดนตรีอื่นๆ เพิ่มขึ้นและสอดแทรกเสียงซินธิไซเซอร์ไว้ในจังหวะเพลงแบบ Medium ซึ่งช่วยให้เพลงสนุกขึ้นกว่าเดิม ขณะเดียวกัน ชุดคอร์ดของแต่ละเพลงก็นำเสนออารมณ์และเนื้อหาในเพลงได้เป็นอย่างดี

    นอกเหนือจากซาวน์ที่เปลี่ยนไป ตูนยังคงเอกลักษณ์การเรียบเรียงเนื้อหาด้วยถ้อยคำสละสลวย และกระแทกกระทั้นหัวใจผู้ฟังเช่นเดิม ยิ่งถ้าใครกำลังตกอยู่ในสภาวะสับสนและไม่มั่นคงในความสัมพันธ์ อัลบั้มนี้อาจทำให้คุณต้องเสียน้ำตาโดยไม่รู้ตัว ส่วนใครที่อยู่ในอารมณ์สดใส คุณก็สามารถสนุกไปกับท่วงทำนองในอัลบั้มนี้ได้โดยไม่ติดขัดเช่นกัน

    อย่าเอาแต่นึกภาพตามเลย.. หยิบหูฟังของคุณขึ้นมา แล้วเปิดเพลงฟังไปพลางๆ ระหว่างที่เราเล่าเรื่องราวที่ค้นพบในอัลบั้มนี้ให้คุณฟังกันเถอะ (:

    "ฉันชอบความธรรมดาข้างในเธอคนๆ นี้ หลงใหลความธรรมดาที่แสนดีผ่านมานานนับปี ฉันมีเธอ"

    เสียงโซโล่ในท่อนแรกของเพลง คนเดิม รับหน้าที่ช่วยปรับอารมณ์ในวันเทาๆ ให้สดใสขึ้น ก่อนที่เพลง Only You จะรับไม้ต่อพาเราก้าวเข้าสู่ถนนของความสัมพันธ์ บอกเล่าความธรรมดาอันน่าประทับใจ ตั้งแต่รอยยิ้ม แววตา และช่วงเวลาที่ใช้ร่วมกัน ไม่ว่าคุณจะอยู่ในห้วงอารมณ์แบบไหน แค่ได้ฟังเพลงนี้ก็ช่วยทำให้อารมณ์ของคุณดีขึ้นมาง่ายๆ

    "ในทางกลับกันหากเธอยังรักฉันหมดใจ แต่ฉันไปพูดว่าเธอมีใคร จะรู้สึกไหม ลองคิดดู"

    แม้ว่าสองเพลงแรกจะบรรเลงมาด้วยความสดใส แต่ในเพลงที่สามนี้กลับฉุดอารมณ์ของเราลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ไม่ต่างกับความสัมพันธ์ที่เราไม่อาจคาดเดาล่วงหน้าได้ 'ลองคิดดู' จึงเป็นตัวแทนของความไม่เข้าใจ เช่นเดียวกับเพลง ไตร่ตรอง ที่ชวนให้เราย้อนกลับไปทบทวนวันเวลาที่ผ่านมา เมื่อความสัมพันธ์เดินมาถึงจุดที่ต้องหยุดพัก

    "ไม่ว่าเธอจะจากเป็นหรือจะจากไปเพราะความตาย มันคืิอความหมายของการไม่มีอยู่"

    ตอกย้ำความเจ็บปวดให้ลึกกว่าเดิมด้วยท่วงทำนองเพลง ลำพัง ขณะที่เพลง ขอบคุณ ได้บอกให้เรารู้ว่า การจากลาเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครต่างก็ต้องพบเจอ แม้ว่าความสัมพันธ์จะสิ้นสุดลงแล้ว แต่เราทุกคนต่างก็มีระยะเวลารักษาแผลใจเป็นของตัวเอง เพลง คนอื่นไกล และ เพลงบางเพลง จึงรับหน้าที่บอกเล่าช่วงเวลาทำใจของคนที่กำลังผิดหวังได้เป็นอย่างดี

    "หากยังเสียใจให้รับรู้ความเป็นคนมีความทุกข์ทุกราย.."

    เสียงกีต้าร์โปร่งฟังสบายและท่วงทำนองช้าๆ ดังขึ้น พาเรากลับมาสู่ปัจจุบันอีกครั้ง หลังการเดินทางในบทเพลงอันยาวนาน เพลง เรื่องจริง คือบทสรุปเรื่องราวความสัมพันธ์ ในวันที่เรายอมรับความอ้างว้างที่เกิดขึ้นภายในจิตใจได้ แม้ว่าเพลงนี้จะไม่สามารถทำให้เรามีความสุขได้เท่ากับช่วงแรกของอัลบั้ม แต่เสียงของตูนและเกิบ-ณัฐพงศ์ ทองเมือง ที่มาร่วมร้องในเพลงนี้ ก็ทำให้หัวใจที่เต้นไปตามจังหวะของเพลงก่อนหน้ากลับสู่ความสงบอีกครั้ง

    ตลอดช่วงเวลา 35 นาทีกับบทเพลงทั้ง 9 เพลงที่ผ่านไป ชวนให้เรานึกถึงสภาวะทางจิตวิทยาที่ผู้คนต้องเผชิญหน้าเมื่อผิดหวัง เริ่มตั้งแต่การปฏิเสธความเสียใจ โยนความผิดให้อีกฝ่าย ต่อรองเพื่อยื้อเวลา และจมปลักอยู่กับความเสียใจ สลับสับเปลี่ยนกันไป ก่อนจะตกตะกอนและยอมรับความจริงได้ในที่สุด

    เราไม่อาจบอกได้ว่าเพลงไหนเป็นเพลงที่ดีที่สุดในอัลบั้ม Post Adrenaline Blues นี้ เพราะแต่ละเพลงต่างช่วยกันทำหน้าที่นำเสนอเรื่องราวความสัมพันธ์ออกมาอย่างแยบยลและน่าหลงใหล ..เปรียบเสมือนมนุษย์ที่พร้อมจะพบเจอ เรียนรู้ จากลา และทำความเข้าใจ

    ก่อนที่เสียงเพลงในอัลบั้มนี้จะพาเราไปเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่อีกครั้ง