Review: Inspirative: Inertia, Pt.2

    จากวงดนตรีที่เริ่มต้นจากความหลงใหลของดนตรีโพสต์ร็อกของสมาชิกวง 5 คน ได้แก่ ตั้ม-วุฒิพงศ์ ห่วงเพชร (ร้องนำ / เปียโน) นพ-นพนันทน์ พานิชเจริญ (กีต้าร์) เคน-ณัฐตนัย จันจรัสศรี (กีต้าร์) โอ๋-อมรเทพ มาแสวง (เบส) และ เอม-สุธาสินี สุวรรณวลัยกร (กลอง) Inspirative สร้างชื่อเสียงไปไกลระดับนานาชาติ ถึงขนาดเคยถูกเชิญให้ไปเล่นคอนเสิร์ตเดี่ยวที่ประเทศจีน (ตามอ่านได้จากบทสัมภาษณ์ Inspirative: วงโพสต์ร็อกที่ได้เหยียบแผ่นดินใหญ่) อีกทั้งยังสร้างความแปลกใหม่มากขึ้นไปอีกจากโปรเจกต์ Crossplay 4 ด้วยการเปลี่ยนเพลงป๊อปอินดี้ยอดนิยม 'หรือไม่ใช่' ของ DEPT ให้กลายเป็นเพลงโพสต์ร็อกสุดดิ่ง ชวนเสียน้ำตา จนคนรู้จักและหันมาติดตามวง Inspirative มากยิ่งขึ้นไปอีก

    ในปี 2562 วง Inspirative ปล่อยอัลบั้มชุด Inertia Pt.1 ปลุกกระแสความนิยมให้แฟนเพลงโพสต์ร็อกไปทั่วประเทศ เราก็เป็นคนหนึ่งที่หลงและจมดิ่งไปกับเสียงของไลน์กีตาร์และจังหวะกลองที่กระแทกเข้าไปในใจอย่างจัง ให้เราได้รู้จักกับความเฉื่อยที่ฉุดรั้งเราไว้ ท่ามกลางเสียงบรรยากาศของท้องทะเลชวนจินตนาการถึงการล่องไปตามสายน้ำอย่างไร้จุดหมาย มีแค่จังหวะและเมโลดี้ในเพลงของ Inspirative เท่านั้นที่เป็นทั้งตัวฉุดรั้งและชวนให้เราล่องลอยไปในเวลาเดียวกัน
    Inspirative นำเสนออีพีอัลบั้ม Inertia Pt.2 อีกครั้งในปี 2563 เพื่อเป็นบทสรุปที่สานต่อเรื่องราวความเฉื่อยจากอัลบั้มที่แล้ว แต่สร้างบรรยากาศที่แตกต่างออกไป ครั้งนี้พวกเขาพาเราเดินทางไปบนผืนดินแห้งแล้ง มีเพียงสายลมที่พัดพาความรู้สึกของเราให้ปลิวออกไป แทนที่ผืนน้ำที่เคยโอบอุ้มให้เราล่องลอยไว้ 4 เพลงอัดแน่นไปด้วยความอึดอัดทางจิตใจ ที่สวนทางกับความยิ่งใหญ่ของทะเลทรายกว้างขวางที่เราจินตนาการได้จากเสียงดนตรี
    เริ่มเดินทางไปในอีพีนี้ด้วยเพลง Under the Mountain (ใต้ภูเขา) ต้นเพลงท้าทายความอ่อนไหวของจิตใจเราด้วยบรรยากาศความอึดอัด มีเพียงเสียงกระเดื่องกลองกระแทกไปกับทรายแทนเสียงเท้าที่ก้าวไปอย่างช้าๆ คลอเคลียมากับเสียงกีตาร์และเสียงสังเคราะห์คล้ายเสียงสายลมที่พัดผ่านหูเราไป ก่อนจะค่อยๆ ถาโถมความวุ่นวายเข้ามาด้วยความเร็วของจังหวะที่เพิ่มขึ้นแบบกะทันหัน เสมือนเปิดทางและผลักเราให้ก้าวต่อไปอย่างรวดเร็ว เป็นการแนะนำการกลับมาของวง Inspirative พร้อมกับเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่นี้ 
    ความเงียบเหงาและเดียวดายจาก Long Road Has no Destined (ถนนสายยาวที่ไม่มีจุดหมาย) และ Dune (ผืนทราย) ทั้งสองเพลงประกอบด้วยเสียงพื้นหลังจากคีย์บอร์ดอาบบรรยากาศผืนทราย และเสียงธรรมชาติที่แฝงไว้เหมือนแอบกระซิบบอกว่าเรานั้นโดดเดี่ยวและเปล่าเปลี่ยวมากเพียงไหน เป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่และแตกต่างจากอัลบั้มก่อนหน้า ที่มีเพลง Beach Road Light และ Loneliest Ocean มาสร้างบรรยากาศชวนอ่อนไหวจากท้องทะเลอันกว้างใหญ่
    ถ้าเรามีเพลงสองเพลงนี้คลอเคลียกล่อมตัวเรา ในช่วงเวลาเร่งด่วนที่มีแต่เสียงรถและผู้คนรอบข้างระหว่างเดินทางกลับบ้าน เราคิดว่ามันคงเปลี่ยนบรรยากาศในการเดินทางของเราให้เหงาและโดดเดี่ยวยิ่งขึ้นอีก  
    สิ่งที่เหลือไว้, Pt.2 คือบทสรุปของการเดินทางในอัลบั้มนี้ ซึ่งเป็นเพลงสานต่อจากอัลบั้ม Inertia Pt.1 ในชื่อเดียวกัน แต่เพิ่มเสียงกีตาร์ที่เกรี้ยวกราวในครึ่งหลังให้เรามีเวลาคิดและอยู่กับตัวเองได้มากกว่าเดิม จากช่วงแรกของเพลง เสียงร้องของตั้มเล่าเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความเศร้า อาวรณ์การจากลาอย่างหดหู่ ตัดพ้อผ่านเนื้อเพลงท่อนสุดท้าย "ไม่ว่านานเท่าไร จากส่วนลึกของใจ ยังสวยงามอยู่ข้างใน" และย้ำเตือนด้วยเสียงคร่ำครวญจากการกระหน่ำของกีตาร์และกลองในช่วงครึ่งหลังว่า เรายังคงเก็บบางอย่างไว้กับตัวเองอยู่เสมอ ก่อนที่นักเดินทางจะศิโรราบลงบนผืนทราย ดั่งภาพที่ปรากฏบนหน้าปกของอัลบั้ม ที่ฉายภาพไว้ให้คนฟังทิ้งตัวบนชายหาดอันโดดเดี่ยว ขณะท้องทะเลและเมฆดำกำลังกลืนกินแสงอาทิตย์ พร้อมเสียงดนตรีที่เฟดเอาท์ออกไป เหลือเพียงความเงียบจากเสียงในชีวิตจริง
    เมื่อฟังซาวน์และโมเลดี้ของ Inspirative ในอีพีนี้ ให้ความรู้สึกเหมือนพวกเขากำลังทดลองสร้างบรรยากาศที่แปลกใหม่กับตัวเอง ละทิ้งความอ่อนไหวในอัลบั้มก่อนหน้า หันมาหยิบใช้พื้นผิวความแห้งเหือด ปราศจากความชุ่มชื้น และแข็งกระด้างจากผืนดิน มาสร้างสรรค์ให้เราลองคิดภาพไปกับเสียงดนตรีของพวกเขาในแบบใหม่ แต่ก็ยังไม่ทิ้งความเป็นโพสต์ร็อกที่ทำให้เรารู้สึกอึดอัดหัวใจทุกครั้งที่ได้ฟัง 
    อีพีชุดนี้ ถ้าให้เราสรุป คงเรียกว่าเป็นบันทึกเรื่องราวการเดินทางแบบสั้น ที่ชวนให้ผู้ฟังแต่ละคนได้จินตนาการแตกต่างกันไป กระนั้นเรายังเชื่อว่าสิ่งที่ทุกคนสามารถจินตนาการเหมือนกันได้อย่างแน่นอนคงเป็น ผืนทะเลทรายแสนแห้งแล้ง ผืนดิน กรวดจากอากาศที่ไม่เป็นมิตรต่อการเจริญเติบโตของพืชผล ก่อนจะมาพบหาดทรายกับท้องทะเล ที่สร้างความสับสนต่อจิตใจ เป็นดั่งความเฉื่อยฉุดรั้งไว้ไม่ให้เราเคลื่อนที่ไปข้างหน้า
    ในระหว่างที่ฟังเพลงทั้งหมดเราสัมผัสเข้าไปกับเสียงเครื่องดนตรีที่กระหน่ำเข้ามาขยี้ความรู้สึกของเราได้อย่างง่ายดาย และทำให้หวนคิดถึงเรื่องราวหลายอย่าง แต่ถ้าใครที่มาเริ่มฟังเพลงแนวโพสต์ร็อก เราคิดว่าอัลบั้มนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสัมผัสความเป็นโพสต์ร็อกนะ ส่วนใครที่เป็นแฟนเพลง Inspirative เราก็ขอบอกเลยว่าไม่ควรพลาดในการสะสมแผ่นอีพี และฟัง Inertia Pt.2 นี้ไปพร้อมกับการสร้างจินตนาการถึงการเดินทางที่น่าจดจำของตัวเอง

ศุภวิชญ์ ไชยวรรณ

นักศึกษาฝึกงานจากเชียงใหม่ ไฟแรงและตัวบวม ชอบเดินหอศิลป์พร้อมหูฟังในวันหยุด ให้ความรักกับพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองมาก แต่พื้นที่ในท้องก็ไม่เคยทิ้งให้ว่างเลย