Taichung Art Scenes: 8 แหล่งศิลปะที่น่าหลงใหลในเมืองไทจง

    โปร่งโล่ง เขียวขจี บรรยากาศดี สิ่งก่อสร้างงดงาม และผู้คนเต็มไปด้วยชีวิตชีวา นี่เป็นความรู้สึกแรกๆ ที่เมืองไทจงมอบให้กับเรา

    ไทจง หรือ ไถจง (Taichung City) เป็นเมืองใหญ่รองๆ จากไทเป ตั้งอยู่ตอนกลางของเกาะไต้หวัน ไทจงได้ชื่อว่าเป็น 'เกียวโตแห่งไต้หวัน' เพราะนอกจากจะเริ่มก่อร่างสร้างความเจริญในยุคที่ญี่ปุ่นเข้าครอบครองไต้หวันแล้ว ยังถือเป็นเมืองที่โดดเด่นด้านศิลปวัฒนธรรมมาเนิ่นนาน คนไต้หวันถือว่าไทจงเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมเมืองหนึ่งเพราะที่นี่อยู่ติดทะเลและยังเป็นประตูไปสู่การท่องเที่ยวภูเขาของเกาะไต้หวัน รวมทั้งที่ยอดฮิตอย่าง Sun Moon Lake อีกด้วย

    ปัจจุบันนักท่องเที่ยวต่างชาติยังให้ความสนใจไทจงไม่น้อย โดยเฉพาะชาวฮ่องกงและชาวญี่ปุ่น เพราะเมืองนี้เต็มไปด้วยคุณสมบัติที่ชวนให้ไปเยือน ตั้งแต่การเป็นเมืองที่มีภูมิทัศน์สวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย ผู้คนไม่พลุกพล่านเกินไป มีจุดท่องเที่ยวหลายรูปแบบ มีอาคารเก่าและโบราณสถานให้เยี่ยมชม มีห้างสรรพสินค้าและตลาดให้ช้อปปิ้ง มีอาหารอร่อยๆ มากมาย (ชานมไข่มุกมีต้นกำเนิดที่เมืองนี้ในร้านอาหารชื่อ ชุน สุ่ย ถาง - Chun Shui Tang) มีสนามบินนานาชาติ (จากเมืองไทยก็มีสายการบิน Thai VietJet Air ที่บินตรงจากสุวรรณภูมิไปลงไทจงในราคาย่อมเยา) และถ้าใครจะไปเที่ยวเมืองไทเปก่อน ก็ยังสามารถเดินทางจากไทเปมาไทจงด้วยรถไฟความเร็วสูงในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ประเด็นที่เราประทับใจไทจงที่สุดก็คือ นี่เป็นเมืองที่ศิลปวัฒนธรรมอยู่อย่างกลมกลืนกับผู้คน

    สถานที่ 8 แห่งที่เราจะเขียนถึงต่อไปนี้เป็นเพียงสถานที่เด่นๆ บางส่วนที่เรามีโอกาสไปเยี่ยมเยือน และอยากแนะนำให้คุณได้ลองไปสัมผัสสักครั้ง หากคุณมีโอกาสได้ไปเที่ยวไทจง เมืองที่โปร่งโล่ง เขียวขจี บรรยากาศดี สิ่งก่อสร้างงดงาม และผู้คนเต็มไปด้วยชีวิตชีวา


Rainbow Village

    ไม่น่าเชื่อว่าหมู่บ้านเล็กๆ ที่ประกอบด้วยบ้านหลังเล็กๆ ราว 10 หลังแห่งนี้ จะกลายเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชนิดที่มีคนคลาคล่ำแทบทุกวัน ไม่ใช่แค่เพราะหมู่บ้านสายรุ้งแห่งนี้มีสีสันสดใสเหมาะสำหรับการถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่งเท่านั้น แต่ประวัติที่มาของสถานที่แห่งนี้ก็น่าสนใจมาก ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีเยี่ยมของการใช้ Soft Power ให้เกิดผลในทางดีต่อสังคมเลยทีเดียว

    เดิมทีหมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านเก่าของทหารผ่านศึกของพรรคก๊กมินตั๋งที่กำลังจะถูกทุบทิ้ง แต่คุณลุงคนหนึ่งชื่อ หวง หย่ง ฟู่ เป็นทหารเก่าที่มีฝีไม้ลายมือด้านการวาดรูป ตัดสินใจลงมือวาดภาพสีสันสดใสด้วยสีน้ำมัน ใส่ตัวการ์ตูนคาแรกเตอร์แปลกๆ ลงไปบนผนังต่างๆ จนเต็มหมู่บ้าน ทำให้บ้านหลังเล็กๆ เหล่านี้กลายเป็นงานศิลปะที่น่าสนใจขึ้นมา ผู้คนแวะเวียนกันเข้ามาชื่นชม และรัฐบาลก็ตัดสินใจประกาศให้หมู่บ้านแห่งนี้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ ก่อนจะกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในที่สุด

    อย่างที่บอกว่าที่นี่มีขนาดเล็ก หากจะเดินชมเร็วๆ ก็ใช้เวลาเพียง 15 นาทีน่าจะพอ แต่ความสนุกที่แท้จริงของการชมหมู่บ้านสายรุ้ง คือการค่อยๆ ไล่ดูตัวละครบนกำแพงแต่ละตัวที่ทั้งน่ารักและเปี่ยมไปด้วยจินตนาการ ซึ่งหากจะค่อยๆ ไล่ดูทีละนิดๆ ก็อาจใช้เวลาเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว

    ปัจจุบันคุณปู่ หวง หย่ง ฟู่ ยังมีชีวิตอยู่อย่างแข็งแรงในวัย 97 ปี และคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยรอยยิ้มทุกวัน นอกจากการเซลฟี่และถ่ายรูปผนังสีสวยแล้ว เราอาจไปขอถ่ายรูปคู่กับคุณปู่ไว้เป็นที่ระลึกก็ย่อมได้ แถมยังสามารถซื้อของที่ระลึกทั้งตุ๊กตา กระเป๋า สติกเกอร์ โปสการ์ด ที่ต่อยอดจากเหล่าตัวการ์ตูนบนผนังไว้เป็นความทรงจำติดไม้ติดมือกลับมาอีกด้วย

วัน-เวลา: เปิดทุกวัน 08.00-18.00 น.
ข้อมูลเพิ่มเติม: 1949rainbow.com.tw


National Taichung Theater

    โรงละครนานาชาติแห่งเมืองไทจงถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของเมืองไทจง ด้วยฝีมือของสถาปนิกชื่อดังชาวญี่ปุ่น โทโย อิโต ที่ออกแบบให้เป็นอาคารรูปทรงทันสมัย ผสมความอ่อนไหวเข้ากับรูปทรงที่แข็งแกร่ง จนดูคล้ายประติมากรรมประจำเมืองเลยทีเดียว หากใครเป็นคนที่ชอบชมสถาปัตยกรรม การได้มาเดินชมอาคารโรงละครประจำเมืองแห่งนี้ก็ถือว่าคุ้มค่าและน่าสนใจมากแล้ว เพราะภายนอกและภายในของที่นี่เต็มไปด้วยลูกเล่นทางสถาปัตยกรรมที่ชวนตื่นตาตื่นใจเต็มไปหมด แต่ความจริงที่นี่ยังมีอะไรให้ดูเยอะกว่านั้นมาก

    แน่นอนว่าถ้าคุณเป็นคนชอบดูการแสดงบนเวที ที่โรงละครนานาชาติแห่งเมืองไทจงก็มีงานแสดงระดับนานาชาติหมุนเวียนมาให้ชมตลอดเวลา ลองหาข้อมูลในเว็บไซต์ของโรงละครและจองตั๋วล่วงหน้าไว้ได้เลย ที่สำคัญคือโรงละครทั้ง Grand Theater และ Play House ของที่นี่ออกแบบได้สวยมากๆ แต่เอาจริงๆ ถึงคุณไม่ชอบดูละครเวที เราก็ยังแนะนำอย่างแรงให้คุณมาเยือนที่นี่อยู่ดี เพราะที่นี่ยังมีสวนลอยฟ้าที่สวยงามขึ้นชื่อ มีร้านอาหาร แกลเลอรี ร้านขายของที่ระลึกที่จัดทำได้ดีมากๆ และโดยเฉพาะที่ชั้น 1 และชั้น 5 ยังมีร้านค้าของเครือ VVG ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการรวบรวมแบรนด์ดีไซน์ต่างๆ ของไต้หวันมาอยู่ในร้านเดียวกัน ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้คุณใช้เวลาชื่นชมอยู่นานสองนานเลยล่ะ

    แบรนด์ดีไซน์ที่ VVG รวบรวมมาไว้ที่สาขานี้ยังมีลูกเล่นแปลกๆ ที่น่าสนใจอีกด้วย ที่โดดเด่นมากๆ ก็คือโซนของ Wooderful Life แบรนด์ผู้ผลิตมิวสิกบ็อกซ์จากไม้ที่เป็นแบรนด์ชื่อดังของไต้หวัน แต่ที่นี่ไม่ได้แค่เพียงขายมิวสิกบ็อกซ์ไม้น่ารักๆ หลากรูปแบบเหมือนที่หลายคนเคยเห็นตามสนามบินเท่านั้น แต่ถึงกับเตรียมเป็นมุม DIY ให้เราเลือกองค์ประกอบทุกชิ้นส่วนของมิวสิกบ็อกซ์ด้วยตัวเอง ตั้งแต่ฐาน เสียงเพลง ไปจนถึงตัวคาแรกเตอร์ต่างๆ ที่ทำจากไม้เลยทีเดียว

    แต่โดยสรุปแล้ว สิ่งที่ทำให้เราประทับใจกับที่นี่มากมาย ก็คือเมื่อมาที่โรงละครแห่งนี้ เราจะได้เห็นภาพชาวไทจงทุกเพศทุกวัยเข้ามาใช้ชีวิต ใช้เวลาอยู่ในโรงละคร ทั้งเดินเล่น ทานอาหาร ช้อปปิ้ง ดูการแสดง มีทั้งมาเป็นครอบครัว หนุ่มสาวที่มาออกเดต คนชราที่มาพักผ่อน หรือมาทัศนศึกษากันเป็นหมู่คณะก็มี และที่นี่ยังมีอาสาสมัครคอยแนะนำงานศิลปะและสถานที่อย่างขยันขันแข็ง เป็นภาพที่เห็นแล้วชวนชื่นใจอย่างยิ่ง

    อย่างในวันเสาร์ที่เราไปเยือน ยังมีกลุ่มพ่อแม่ลูกกลุ่มใหญ่มาแสดงกิจกรรมเต้นประกอบดนตรีร่วมกันที่หน้าโรงละครให้คนที่ผ่านไปผ่านมาได้ยืนชมความน่ารักอยู่พักใหญ่ด้วย เป็นกิจกรรมง่ายๆ แต่งดงามที่บอกได้ว่าสถานที่แห่งนี้ผูกพันกับชาวเมืองเพียงใด

    แคมเปญเมื่อปีกลายของโรงละครแห่งนี้ซึ่งตั้งชื่อเป็นประโยคยาวๆ บอกเอาไว้ว่า 'ในหัวใจของทุกคนล้วนมีโรงละครอยู่แห่งหนึ่ง' เราเองก็เชื่อว่าโรงละครแห่งนี้คือโรงละครในหัวใจของชาวไทจงทุกคน และรวมไปถึงในหัวใจของคนต่างถิ่นที่ได้มาเยือนอีกเป็นจำนวนมากด้วย

วัน-เวลา: วันอาทิตย์-พฤหัสบดี เปิด 11.30-21.00 น., วันศุกร์-เสาร์ และวันหยุดพิเศษ เปิด 11.30-22.00 น.
ข้อมูลเพิ่มเติม: en.npac-ntt.org


Eslite Spectrum Chungyo Store

    หากไม่แนะนำร้านหนังสือเลยก็ดูจะผิดวิสัยของชาว happening ไปหน่อย ร้านหนังสือ Eslite Spectrum Chungyo Store เป็นหนึ่งในสาขาของ Eslite Bookstore ซึ่งเป็นเครือร้านหนังสือที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าชื่อ Chungyo Department Store กินพื้นที่ 3 ชั้น คือชั้น 10-12 ของห้าง หากค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตจะพบว่าร้านหนังสือแห่งนี้มีมุมเด็ดตรงชั้นหนังสือขนาดใหญ่ที่ดีไซน์เป็นทรงโค้งซ้อนกัน 3 ชั้น บรรจุหนังสือได้นับหมื่นเล่ม เวลาถ่ายรูปออกมาจะแลดูอลังการทีเดียว ถือเป็นภาพฝันที่เป็นจริงของคนรักหนังสือเลยล่ะ แต่ตลอดพื้นที่ 3 ชั้นของร้านยังแทรกไว้ด้วยโซนขายของแบรนด์ดีไซน์น่ารักๆ มุมขายซีดีเพลง มุมขายเครื่องเขียน มุมขายของที่ระลึก มุมหนังสือเด็ก และร้านกาแฟเล็กๆ ชื่อ Blackpages Cafe ที่ขายแผ่นเสียงคู่กับการขายกาแฟด้วย

    แน่นอนว่าหนังสือส่วนใหญ่ในร้านนี้เป็นภาษาจีน ซึ่งอาจจะทำให้หนอนหนังสือชาวไทยไม่ได้เสียเงินซื้อหนังสือนัก แต่กับหมวดเครื่องเขียน และสินค้าแบรนด์ดีไซน์น่ารักอื่นๆ นั้น เราไม่รับประกันว่าเงินคุณจะไม่ร่อยหรอ!

วัน-เวลา: วันธรรมดา เปิด 11.00-22.00 น., วันเสาร์-อาทิตย์ 10.30-22.00 น.
ข้อมูลเพิ่มเติม: eslitecorp.com


Crealive Dept.

    ขอแนะนำร้าน Select Shop เล็กๆ ของกลุ่มหนุ่มสาวชาวไทจงสักแห่งหนึ่งบ้าง ร้าน Crealive Dept. ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับ Chungyo Department Store ในระยะเดินแค่ 5 นาที ร้านขนาดหนึ่งคูหาแห่งนี้เริ่มจากกลุ่มดีไซเนอร์ที่ทำแบรนด์ดีไซน์ชื่อ Filter017 ที่เป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ซึ่งออกแบบสินค้าสำหรับชีวิตกลางแจ้งที่สามารถเอามาใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย พวกเขายังรับงานออกแบบให้กับลูกค้าหลากหลาย และมีผลงานเด่นคือการดูแลเรื่องดีไซน์ให้กับทีมเบสบอลของไต้หวัน จนเมื่อราว 7 ปีก่อน ร้าน Crealive Dept. ก็เปิดขึ้นมาโดยตั้งใจให้เป็นโชว์รูมของแบรนด์ Filter017 ซึ่งเริ่มจะมีสินค้าหลายรูปแบบขึ้นทุกที แต่ทำไปทำมา ทุกวันนี้ที่นี่ก็กลายเป็นซีเล็กต์ช็อปที่รวมของเจ๋งๆ ไว้เพียบ

    ภายในร้านซึ่งถูกดัดแปลงจากบ้านเก่าแห่งนี้แบ่งโชว์รูมออกเป็น 3 ห้อง อยู่ที่ชั้น 1 ด้านหน้าและด้านหลัง และมีห้องใต้ดินอีกหนึ่งห้อง สินค้าของที่นี่มีตั้งแต่เสื้อผ้า กระเป๋าผ้า กระเป๋าเป้ กระเป๋าเดินทาง เครื่องเขียน เครื่องประดับ พวกกุญแจ สติกเกอร์ นาฬิกา หมวก สมุดบันทึก ของใช้จิปาถะ ฯลฯ เรียกว่ามีเยอะมาก แต่ละอย่างมีจุดร่วมอยู่ที่สไตล์ที่ร่วมสมัย ออกไปทางเท่ๆ และให้ความรู้สึกถึงชีวิตเอาต์ดอร์ นอกจากแบรนด์ของตัวเองแล้ว พวกเขายังคัดสรรสินค้าจากแบรนด์อื่นๆ ซึ่งมีตั้งแต่ในไต้หวัน จีน ญี่ปุ่น และอเมริกา มารวมไว้ในร้านด้วย

    นอกจากคนที่ชอบสินค้าแนวนี้จะได้ช้อปปิ้งแล้ว การมาเยือนที่นี่จะทำให้ได้เห็นความมุ่งมั่นของกลุ่มหนุ่มสาวชาวไทจงที่เชื่อมั่นเรื่องการนำดีไซน์มาใช้ในชีวิตประจำวันด้วย และที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ในซอยเดียวกันยังมีร้านน่ารักๆ อีกหลายร้าน อาทิ ร้านข้าวแกงกะหรี่ และร้านขนมเค้ก ให้ลองแวะเวียนไปชิมด้วยนะ

วัน-เวลา: วันอังคาร-พฤหัสบดี เปิด 14.00-21.30 น., วันศุกร์-อาทิตย์ เปิด 13.30-22.30 น., ปิดวันจันทร์
ข้อมูลเพิ่มเติม: crealivedept.com


National Taiwan Museum of Fine Arts

    มิวเซียมระดับประเทศอีกแห่งตั้งอยู่ที่ไทจงนี่เอง มิวเซียมขนาดใหญ่แห่งนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 1988 ถือเป็นที่รวบรวม ศึกษา และพัฒนางานด้านศิลปะร่วมสมัยของไต้หวัน ด้วยขนาดพื้นที่นับแสนตารางเมตร ตัวอาคารสูง 3 ชั้น มีห้องจัดนิทรรศการหลายห้อง ศูนย์ค้นคว้า ห้องบรรยาย ศูนย์ข้อมูลดิจิทัลอาร์ต ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร (ที่มีสาขาของร้าน ชุน สุ่ย ถาง ด้วยนะ ลองไปชิมชาไข่มุกเจ้าแรกในโลกกันได้) รวมไปถึงการจัดแสดงประติมากรรมขนาดใหญ่อีกหลายชิ้นด้านนอกอาคาร สำหรับคนที่ชอบชมงานศิลปะร่วมสมัย สามารถใช้เวลาในนี้ได้เป็นวันเลยทีเดียว

    จุดเด่นของมิวเซียมแห่งนี้คือการให้บริการด้านความรู้ในหลากหลายรูปแบบ ด้วยพันธกิจในการทำหน้าที่สำรวจและวิจัยแวดวงศิลปะของไต้หวันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทำให้การจัดแสดงนิทรรศการของที่นี่เข้มข้นมาก อย่างในช่วงที่เราไปเยือนก็กำลังมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับศิลปินแนวอาวองการ์ดของไต้หวันที่เป็นการรวมงานชิ้นเด่นของศิลปินกว่า 37 คนมาแสดงด้วยกัน ดูงานนี้งานเดียวก็ทำให้ได้รับรู้โมเมนต์สำคัญของศิลปะร่วมสมัยที่นี่อย่างจุใจ ในขณะที่ห้องนิทรรศการอีกห้องก็มีงานล้ำๆ อย่างศิลปะ Techno Art อีกห้องก็มีนิทรรศการที่ว่าด้วยภาพวาดของแสงและเงาในธรรมชาติ แสดงถึงความเปิดกว้างของมิวเซียมแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี

    ตอนบ่ายแก่ๆ วันนั้นเราเดินออกมาจากมิวเซียมแห่งนี้เพื่อพบกับงานอีเวนต์กลางแจ้งน่ารักๆ ของ Green Peace ซึ่งใช้พื้นที่สวนด้านหน้าจัดงานรณรงค์ให้รักสิ่งแวดล้อมได้อย่างรื่นรมย์ เป็นซีนที่แสดงความผูกพันของคนที่นี่กับมิวเซียมแห่งนี้เช่นกัน และเราหวังว่าจะได้กลับมาที่นี่ เพื่อมาเห็นภาพดีๆ แบบนี้อีก

วัน-เวลา: วันอังคาร-ศุกร์ เปิด 09.00-17.00 น., วันเสาร์-อาทิตย์ เปิด 09.00-18.00 น.
ข้อมูลเพิ่มเติม: www.ntmofa.gov.tw 


Shen Ji New Village

    ในระยะห่างแบบเดินสบายๆ จาก National Taiwan Museum of Fine Arts เป็นที่ตั้งของ เสิ่น จี้ นิว วิลเลจ กลุ่มบ้านพักข้าราชการเก่าซึ่งถูกนำมาปรับเป็นพื้นที่สำหรับความคิดสร้างสรรค์และผู้ประกอบการรุ่นใหม่อีกแห่ง กลายเป็นโซนที่เต็มไปด้วยร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก แบรนด์ดีไซน์ สตูดิโอ และร้านขนมน่ารักๆ จำนวนมาก วางตัวเรียงรายกันอยู่บนกลุ่มอาคาร 2 ชั้น ชวนให้แวะร้านโน้นทีร้านนี้ที เดินขึ้นบันไดแล้วเดินลงมาข้างล่างอย่างไม่รู้เบื่อ

    นอกจากจะมีร้านเยอะแล้ว หากมาที่นี่ในวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีตลาด Lole Market อาร์ตมาร์เก็ตที่คึกคักอย่างยิ่ง เป็นที่ปล่อยของของศิลปินและแบรนด์รุ่นใหม่ และเป็นที่ที่หนุ่มสาวชาวไทจงนิยมมาเดินกันในวันหยุด กิจกรรมสนุกๆ อัดแน่นอยู่เต็มบรรยากาศที่เปี่ยมชีวิตชีวา เอาเป็นว่าคนที่ชอบอีเวนต์แนวนี้ไม่ควรพลาด

    ขอยกตัวอย่างร้านที่เราชอบเป็นพิเศษสักหน่อย ร้านแรกคือร้านซีเล็กต์ช็อปของนิตยสาร c'est si bon (หรือชื่อจีนว่า เสี่ยว รื่อ จื่อ แปลว่า ช่วงเวลาเล็กๆ) เจอร้านนี้สาขาไหนก็ชวนให้นึกถึงร้าน happening shop ของเรา เพราะเป็นร้านที่มีจุดกำเนิดจากนิตยสารเหมือนกัน ต่างกันตรงที่นอกจากจะมีสินค้าน่ารักๆ อยู่เต็มร้านแล้ว ที่นี่ยังมีกาแฟซึ่งขายดีขนาดที่มักจะมีคนต่อคิวซื้อเลยทีเดียว

    อีกร้านที่เราชอบเป็นร้านเล็กๆ ชื่อ Yushilab ที่ขายสินค้าซึ่งสร้างจากคาแรกเตอร์ลายเส้นเด็กหน้าตาน่ารักที่มีเพื่อนเป็นแมวหน้าตากวนประสาท ร้านเล็กมาก แต่สินค้าก็น่ารักมากๆ และเป็นตัวอย่างที่ดีของการต่อยอดสินค้านานาชนิดจากคาแรกเตอร์เพียงชุดเดียว

    เอาเป็นว่าถ้าชอบคนเยอะๆ และบรรยากาศสนุกๆ ก็ให้ไปที่นี่ในวันเสาร์ อาทิตย์ แต่ถ้าอยากใช้เวลาค่อยๆ เดิน ค่อยๆ ชม ก็ไปวันธรรมดา ...คุณสามารถเลือก เสิ่น จี้ นิว วิลเลจ ในแบบของคุณได้ตามใจชอบเลยนะ

วัน-เวลา: ร้านค้าเปิดไม่เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่เริ่มต้นที่ 12.00 น.
ข้อมูลเพิ่มเติม: travel.taichung.gov.tw/en-us/Attractions/Intro/1222/Shen-Ji-New-Village


Fantasy Story

    จาก เสิ่น จี้ นิว วิลเลจ เราสามารถเดินไปที่ แฟนตาซี สตอรี่ ได้

    แฟนตาซี สตอรี่ เป็นชื่อแหล่งร้านค้าเจ๋งๆ บนถนนซอยสายสั้นๆ มีย่านหลักๆ อยู่ที่ถนนเหม่ชุน ซอย 117 และถนนจงซิ่ง ซอย 1 ซึ่งร้านเหล่านี้ล้วนเป็นอาคารเก่าที่ทางราชการจัดให้เป็นครีเอทีฟสเปซโดยไม่ทุบทิ้งของเดิม แต่เอามาเป็นพื้นที่ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านแบรนด์ดีไซน์ แกลเลอรี ร้านตัดผม ฯลฯ แทน

    ร้านค้าส่วนใหญ่จะเปิดในช่วงเที่ยง ดังนั้นอย่ารีบไปเยือนที่นี่ให้เช้าเกินไปนัก โซนที่เราชื่นชอบเป็นพิเศษก็คือที่ จงซิ่ง ซอย 1 ซึ่งเป็นอาคาร 2 ชั้นของการประปา ที่ถูกดัดแปลงเป็นร้านน่ารักๆ หลายร้าน ที่เราชอบมากๆ ก็คือร้านของแบรนด์ In Bloom แบรนด์ดีไซน์อายุหนึ่งทศวรรษซึ่งเชี่ยวชาญด้านงานผ้าและภาพพิมพ์ ถือเป็นแบรนด์ที่เติบโตอย่างน่าชื่นชม และร้านสาขานี้ก็น่ารักเอามากๆ ยังมีอีกร้านที่เหมาะสำหรับคนชอบรื้อของเก่าคือ Mini Amer. ที่สรรหาของเล่น เครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน และเครื่องใช้เก่าๆ มาขาย จนทำให้คนซื้อรู้สึกสนุกสนานไปกับการเลือกดูของในร้าน

    ในโซนใกล้กันยังมีร้านหนังสืออาร์ตบุ๊กอีกแห่งที่เราประทับใจ ตั้งอยู่ตรงหัวมุมถนน ชื่อร้านหนังสือ ซินโส่ว ร้านนี้เต็มไปด้วยหนังสือสวยๆ พ่วงด้วยนิทรรศการศิลปะเล็กๆ ในร้าน และที่น่าชื่นชมคือที่นี่ตั้งใจจะไม่ขายหนังสือลดราคา เพราะเชื่อว่าความรู้ย่อมมีคุณค่าในแบบที่ไม่ต้องลดราคา!

    นี่เป็นการแนะนำย่าน แฟนตาซี สตอรี่ ในแบบย่นย่อมากๆ เราเชื่อว่าหากได้ไปเยือนด้วยตัวเอง คุณจะใช้เวลาในย่านนี้ ทั้งดูงานศิลปะ ช้อปปิ้ง ดื่มกาแฟ รวมแล้วเป็นเวลาอันรื่นรมย์อยู่หลายชั่วโมงเลยล่ะ

วัน-เวลา: ร้านค้าเปิดปิดไม่เท่ากัน แต่แนะนำให้ไปหลัง 12.00 น. เป็นต้นไป
ข้อมูลเพิ่มเติม: fantasystory.com.tw


The Wufeng Lin Family Garden

    ปิดท้ายด้วยสถานที่สุดพิเศษอีกแห่ง เดิมทีสถานที่แห่งนี้เป็นบ้านที่อยู่อาศัยของตระกูลหลิน ซึ่งเป็นตระกูลเก่าแก่ซึ่งเข้ามาในไต้หวันตั้งแต่สมัยราชวงชิง เมื่อราว 160 ปีก่อน และขยับขยายกลายเป็นตระกูลใหญ่ในไทจงที่สร้างบ้านประจำตระกูลตามขนบของราชวงศ์ชิงได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด เมื่อผ่านวันเวลามาถึงปัจจุบัน อาจกล่าวได้ว่าที่นี่เป็นอาคารพักอาศัยแบบจีนในราชวงศ์ชิงที่ยังเก็บรักษาสภาพได้สมบูรณ์แบบที่สุดในโลกก็ว่าได้

    เมื่อไต้หวันเกิดแผ่นดินไหวในปี 1999 ที่นี่ได้รับความเสียหายไปบ้าง แต่ก็ได้รับการบูรณะจนกลับสู่ความสมบูรณ์ในที่สุด ปัจจุบันทางเจ้าของบ้านเปิดให้คนทั่วไปเข้ามาเยี่ยมชมพร้อมฟังการบรรยายทุกวัน และกำลังทดลองเปิดให้คนเข้าชมเป็นกลุ่มๆ ในตอนกลางคืนเดือนละครั้งด้วย ซึ่งเราโชคดีมากที่ไปเยือนไทจงในวันที่เขาเปิดให้ชมตอนกลางคืนพอดี

    คุณดิเรก หลิน เจ้าของบ้านชักชวนให้เราแต่งชุดแบบจีนโบราณเพื่อเป็นการร่วมย้อนยุคไปสู่อดีต แล้วก็พาเราเดินชมความงามในจุดต่างๆ ของบ้าน ตั้งแต่ประตูที่มีภาพวาดของทวารบาลอันงดงาม ไล่มาถึงห้องสำหรับจอดเกี้ยวที่เป็นเหมือนจุดรับแขกที่ถูกตกแต่งอย่างวิจิตรและเปี่ยมความหมาย ฟังคำบรรยายความหมายของภาพวาดและรายละเอียดทางสถาปัตยกรรมต่างๆ แล้วก็ได้แต่ทึ่งกับความลึกซึ้งของคนสมัยก่อน จนมาถึงจุดที่เป็นไฮไลต์อีกแห่งก็คือโถงด้านในที่เป็นโรงละครเล็กๆ ซึ่งเจ้าบ้านจัดเตรียมนักแสดงมืออาชีพมาบรรเลงให้เราได้สัมผัสดนตรีแบบดั้งเดิมของจีนกันอย่างเต็มที่ ท่ามกลางบรรยากาศที่ส่งเสริมอารมณ์เป็นอย่างดี

    นอกจากศิลปะร่วมสมัยแล้ว หากใครไปเยือนไทจงแล้วอยากทำความรู้จักกับรากของวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง เราขอแนะนำให้มาเยือนที่นี่สักครั้ง และควรจองล่วงหน้าโดยหาข้อมูลในเว็บไซต์หรือติดต่อสอบถามผ่านเฟซบุ๊กไปก่อนนะ

วัน-เวลา: เปิดทุกวัน 09.00-12.00 น. / 13.00-17.00 น.
ข้อมูลเพิ่มเติม: wufenglins.com.tw และ www.facebook.com/wufenglins

    ทั้ง 8 สถานที่ที่เราแนะนำถือเป็นเพียงส่วนเดียวของเมืองไทจงที่เราประทับใจ ที่นี่ยังมีตลาดเก่ากลางเมืองที่เต็มไปด้วยข้าวของให้ซื้อหาและอาหารอร่อยๆ มีสถานีรถไฟเก่าอายุนับร้อยปีที่สร้างโดยชาวญี่ปุ่น มีจุดท่องเที่ยวสำหรับคนที่ชอบแอนิเมชันและการ์ตูนญี่ปุ่นหลายแห่ง มีร้านไอศกรีมสำหรับคนที่ชอบ แฮร์รี่ พอตเตอร์ มีพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์วรรณกรรม มีจุดชมวิวริมแม่น้ำที่ประดับประดาด้วยไฟสีสวย แถมด้วยแกลเลอรีและร้านกาแฟที่ตกแต่งอย่างงดงามอีกเป็นจำนวนมาก

    มาเยือนครั้งแรกแล้ว เราบอกกับตัวเองว่า ไทจงคือเมืองที่เราหลงรัก และอยากกลับไปเยือนอีกหลายๆ ครั้ง


วิภว์ บูรพาเดชะ

ผู้ก่อตั้งนิตยสาร happening, บรรณาธิการบริหารนิตยสาร happening, กรรมการบริหารหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (bacc), นักเขียน, นักแต่งเพลง, นักฟังเพลง และนักอ่านตัวยง

วรรณวนัช บูรพาเดชะ

ที่ปรึกษาทีม happening shop, เจ้าของเพจเฟซบุ๊กและหนังสือ 'ญี่ปุ่นอุ่นอุ่น', นักเขียน ช่างภาพโฟโต้บุ๊ก 'Nagasaki Light' และไกด์บุ๊ก 'Kagawa Memories' นอกจากภาพถ่ายและงานเขียน สิ่งที่เธอสนใจเป็นพิเศษคือการนั่งสมาธิและการโปรยมุขไม่ขำ