การเดินทางในหมอกฝันและควันเมืองของ ตุล ไวฑูรเกียรติ

    หลายคนได้ฟังอัลบั้มล่าสุดของอพาร์ตเมนต์คุณป้ากันไปแล้ว และหลายคนก็คงได้รับชมเอ็มวีเพลง หยุดค่ำคืนไว้ตรงหน้าเธอจะดีไหม กับ แสงและเงา กันไปบ้าง

    หากสังเกตดีๆ คุณจะพบว่า ในเอ็มวีจะมีสัญญะต่างๆ ซ่อนอยู่ เช่นเดียวกับตัวบทเพลงในอัลบั้มชื่อเดียวกับวงชุดนี้ที่ถูกแบ่งพาร์ตออกเป็นสองส่วนคือ หมอกฝัน และ ควันเมือง หรือมากไปกว่านั้นสำหรับใครที่ซื้ออัลบั้มก็จะค้นพบว่าภายในมีเรื่องสั้นที่ตุลเป็นผู้แต่ง เล่าเรื่องราวคอนเซปต์เพลงต่างๆ ภายในอัลบั้มนี้อยู่ด้วย

    หมอกฝัน' และ 'ควันเมือง' ที่ทำให้เกิดบทเพลงต่างๆ ในอัลบั้มคืออะไร? เราลองมาย้อนสู่จุดเริ่มต้นการเดินทางของ ตุล ไวฑูรเกียรติ ในอัลบั้มนี้ และมาไล่เรียงความหมายที่แฝงอยู่ในบทเพลงทั้งหมดกัน 



13 ตุลาคม 2559
วันที่สายฝนตกลงบนดวงตาของคนไทยทั้งประเทศ

    "ตอนที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต หลังจากนั้นทุกๆ อย่าง รวมถึงปฏิทินในชีวิตของผม มันหยุดไปหมด นักดนตรีไม่มีงาน เมืองตกอยู่ในบรรยากาศความเงียบของการไว้อาลัย คนไทยเกือบทั้งประเทศไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เป็นอารมณ์มวลรวมของประเทศที่ผลักให้เรารู้สึกอึ้ง ไม่รู้ว่าควรทำยังไง มันเงียบไปหมด

    "ก่อนหน้านั้น ผมเขียนเพลงไม่ได้มานานมาก คือถ้าให้เขียนเพลงซ้ำซาก มันก็ได้ แต่เพลงที่เป็นเรื่องที่เราอยากเล่าจริงๆ มันกลับไม่มี ไม่ออก แม้แต่บทกวีผมก็ไม่ได้เขียน ประสบการณ์เขียนเพลงมันทำให้ผมใช้สมองทำงานได้ก็จริง เพลงมันออกมาอยู่แล้ว แต่เพลงที่มันกระทบใจ อย่างเพลงของวงอพาร์ตเมนต์คุณป้า มันต้องเป็นเพลงที่มาแบบออโตเมติก  ไม่ใช่จากความคิด แต่จากใจ

    "ไม่รู้ทำไม ตอนนั้นผมถึงตัดสินใจตีตั๋วไปเชียงใหม่โดยไร้แผน แต่พอถึงก็เปลี่ยนใจอีก ซื้อตั๋วเที่ยวเดียวไปที่อำเภอปายอย่างไม่มีกำหนด..."

กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ - ปาย 
ฝนที่ตกลงมาใส่เมืองแห่งหมอกฝัน

    ราวกับฟ้าร้องไห้ให้กับเหตุการณ์ครั้งสำคัญของประเทศไทย เสียงสายฝนลงมาตกกระทบกลบทุกสรรพเสียงให้เงียบงัน ไร้ข้อยกเว้นแม้กับเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง ปาย

    ละอองหมอกเยือกเย็นเข้ามาเยือนทั่วทั้งหุบเขาปาย ปกคลุมทั้งเมืองให้พร่ามัวและหมองหม่น ในห้วงเวลาแปลกประหลาดเช่นนี้ ที่ความฝันของตุลตื่นกลับขึ้นมา

    "ผู้คนที่ปายน่ารักนะครับ พอรู้ว่าผมมา คนก็แวะเวียนมาพูดคุยด้วย ได้พบปะเพื่อนใหม่ๆ บางคนก็ชวนเราไปเที่ยวที่ต่างๆ ในอำเภอ เราก็ปล่อยไหลไปกับเขา ซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวน้ำตก ไปชมธรรมชาติต่างๆ เพราะในเมืองมันเงียบไปหมด ฝนก็ตกเกือบทุกวัน หมอกปกคลุมเต็มไปหมด ทีนี้เราพกกีตาร์โปร่งตัวเล็กไปด้วย เช้าวันหนึ่งที่ตื่นขึ้นมา มันก็มีประกาย มีเสียงบางอย่างขึ้นมาจากความเงียบ จากความไม่มีเพลง ทำให้เกิดเพลงขึ้นมา

    "พอแต่งได้หลายเพลง ผมก็โทรศัพท์บอกเพื่อนในวงว่า เขียนเพลงได้แล้ว เพื่อนๆ ก็ดีใจ และมันเป็นเพลงที่เกิดขึ้นมาในบรรยากาศเฉพาะ ให้กลับไปแต่งที่ปายตอนนี้ก็คงทำไม่ได้แล้ว และเป็นครั้งแรกที่เพลงของอพาร์ตเมนต์คุณป้าพูดถึงเรื่องราวบรรยากาศนอกเมืองหลวง จากปกติที่เราจะพูดแต่เรื่องของความยุ่งเหยิงในเมือง ลักษณะของคำที่ใช้ในเพลงก็จะแตกต่างออกไป เราเลยแบ่งเพลงที่แต่งขึ้นในอัลบั้มออกเป็น 2 บท 'หมอกฝัน' และ 'ควันเมือง' ที่กลับไปพูดเรื่องของในเมืองอีกครั้ง จนกลายเป็นเพลงต่างๆ ในอัลบั้มนี้ของอพาร์ตเมนต์คุณป้า"

บทที่ 1 : หมอกฝัน

เพลง ปายฝนต้นหนาว

    "เป็นเพลงที่พูดถึงการอำลา ของสองคน หรือความตาย มันมีบรรยากาศความโศกเศร้าของการจากลาและ เริ่มต้นใหม่ปะปนกัน คล้ายการเปลี่ยนผ่านของฤดูฝนสู่ฤดูหนาว เป็นช่วงผลัดเปลี่ยนรัชกาล เปลี่ยนแผ่นดิน มันเป็นประวัติศาสตร์หนึ่งของประเทศที่เราบันทึกไว้ แต่อาจจะไม่ได้นำเสนอแบบตรงไปตรงมา เป็นวิธี expression อีกวิธีหนึ่งของเราต่อช่วงเวลานั้น"

เพลง หยุดค่ำคืนไว้ตรงหน้าเธอจะดีไหม

    "หยุดค่ำคืนฯ เพลงนี้เราพูดถึงเรื่องของความรักในจินตนาการ ชื่นชมความงามของหญิงสาว ที่ผมมานั่งคิดกับตนเองทีหลัง มันอาจมีความหมายแฝงถึงธรรมชาติที่ผมได้พบตอนอยู่ที่ปายด้วยก็ได้ 'ใครบันดาลให้เธอบินผ่าน... ใครบันดาลความงดงามที่ยิ่งใหญ่...' จะมองว่าพูดถึงคนก็ได้ หรือ scenery ของธรรมชาติที่ผมไม่เคยได้พบมาก่อนก็ได้"

เพลง แสงและเงา

    "แสงและเงา พูดถึงเรื่องของความชั่วคราว สิ่งที่เราเห็นเกิดขึ้น รู้สึกประทับใจ บางทีก็เป็นแค่การล้อเล่นของกาลเวลา ความทุกข์ ความโศก ความสุข หรือความอะไรก็ตาม มันก็แค่นั้น มันเป็นแค่ภาพที่มาตกกระทบตาของคน แล้วเราก็เลือกจะจดจำมันในแบบต่างๆ ในชั่วพริบตา เป็นการล้อเล่นของแสงและเงากับเวลา อยู่ที่เราจะทำอย่างไรกับมัน"

เพลง ลมเอย

    "เพลง ลมเอย พูดถึงเรื่องความพยายามจะตามหาความฝันของหลายๆ คน แต่ให้ลมช่วยไปบอกเขาหน่อยเถอะว่าสิ่งที่เขาหวังอยู่ ความหวังที่เขามีอยู่ ความฝันมันคงไม่มีจริงหรอก ช่วยไปบอกเขาหน่อย ลมเอยจะพูดเรื่องนั้น แต่จะบอกว่ามันไม่มีความฝันอยู่ก็ไม่ใช่ ในเพลงก็บอกให้เขารอประตูต่อไป ตัวเราก็ได้แต่หวัง ถามว่ามันอยู่ไหนครับ อยู่บ้านหลังไหน มันก็ต้องไล่เคาะไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอสักวัน เคาะไปเหอะ มันเป็นหน้าที่ของคนก็เคาะถามหากันต่อไป ความฝันเนี่ย"

เพลง ประตูปิดตาย

    "เป็นเพลงรักที่พูดถึงความสูญเสีย ใช่... ความตาย ผมเข้าใจว่าเพลงนี้มาจากบรรยากาศในช่วงนั้นที่เต็มไปด้วยเรื่องของการจากลา ศิลปินชื่อดังต่างๆ ก็จากไปช่วงเวลานั้น และเป็นความบังเอิญมากที่การไปปายครั้งนั้นผมพกหนังสือ Book of Longing ซึ่งเป็นบทกวีเกี่ยวกับชีวิตและความตายของนักเขียนและนักร้องชื่อดัง ลีโอนาร์ด โคเฮน (Leonard Cohen) ซึ่งเขาก็มาจากไปช่วงขณะที่ผมอยู่ที่ปายพอดีอีก บรรยากาศรอบตัวผมตอนนั้นจึงเต็มไปด้วยเรื่องราวของความตาย จนออกมาเป็นเพลง ประตูที่ปิดตาย"

บทที่สอง : ควันเมือง

เพลง ความลับ

    "พอกลับมากรุงเทพฯ ตัวเพลงในอัลบั้มจะมีภาคดนตรีที่เปลี่ยนไป สำหรับเพลง ความลับ เป็นเพลงที่เราอยากจะ บอกว่า ถ้าคุณรู้ความลับ รู้เรื่องอะไรบางเรื่องมา บางทีก็ลืมมันไปเหอะ ไม่ต้องไปสนใจ อาจจะเป็นสิ่งดีที่สุดสำหรับการอยู่ต่อไป"

เพลง กระหายควัน

    "ผมรู้สึกว่าเพลงอัลบั้มนี้มีความเป็นการบำบัดตัวเองมากๆ ในหลายเรื่อง เช่นเพลงนี้ ที่กำลังพูดถึงจุดที่ผมมาถึงการตีบตัน ในความคิดลึกๆ เราถามตัวเองว่าควรจะทำต่อไปไหม ทำอย่างไรดี สุดท้ายแล้วเราก็ค้นพบว่าคำถามนั้นแหละที่บอกว่าเรายังคงเป็นกองไฟที่ยังกระหายควัน เรายังมีไฟนั้นอยู่ภายใน แค่จะดึงมันออกมาได้ยังไงในความเป็นศิลปินของเรา"

เพลง กำยาน

    "กำยาน เคยเป็นเพลงบรรเลงที่ผมทำให้กับโปรเจกต์หนึ่งมาก่อน แล้วนำมาพัฒนาต่อ ตอนแรกก็คิดกันไว้ว่าจะทำเป็นเพลงร็อกธรรมดา แต่ไม่รู้ทำไมอยู่ดีๆ ก็ลองเอาดนตรีอินเดียเข้าไปใส่ พอเติมลงไปแล้วมันได้เว้ย พอดนตรีเป็นอินเดียแล้ว สิ่งที่เราคิดถึงขึ้นมาในจินตนาการเลยกลายเป็นเรื่องที่เราสนใจ ก็คือเรื่องของพุทธศาสนา ช่วงหลังผมมีกิจวัตรหนึ่งที่ทำเป็นประจำ คือ การภาวนา อาจไม่ได้เยอะมาก แต่พอช่วยเราได้ในแต่ละวัน ซึ่งก็จะมีเรื่องของกลิ่นจากกำยานเข้ามาช่วย เพลง กำยาน จึงพูดถึงเรื่องของการหลงใหลในความทุกข์ ติดอยู่กับกิเลสที่แฝงร่างในความสุข สิ่งที่เราเห็นว่าเป็นสุข มันก็คือทุกข์โดยจริงแล้ว"

เพลง วิกฤติวัยกลางคืน

    "เรากำลังพูดถึงปากกาที่เคยแพรวพราวเขียนบทเพลงและบทกวีต่างๆ ที่กลับไม่มีเรื่องราวออกมา ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร ไปตามหามันคืนได้ที่ไหน ก็เลยแก้ด้วยการไปเที่ยวกลางคืนหาแรงบันดาลใจ ซึ่งสุดท้ายไม่ใช่ มันเป็นคำแก้ตัว นี่ก็คือวิกฤติวัยกลางคืน ซึ่งสะท้อนวิกฤติของตัวผมเอง เป็นภาระที่เรารับไว้ในฐานะของนักเขียน มันไม่ออก เป็นการพูดถึงช่วงวิกฤติที่เราแต่งเพลงไม่ได้ ก่อนจะออกมาเป็นอัลบั้มนี้"

เพลง จันทร์ผิดข้าง

    "จันทร์ผิดข้างพูดถึงบรรยากาศอึมครึมของเมืองที่เราเจออยู่ เป็นการเผชิญกับความแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองเราขณะนี้ เป็นเมืองที่ดวงจันทร์กำลังขึ้นผิดข้าง... เป็นธรรมชาติที่มันไม่ควรเป็นอย่างที่ควร"


ในหนังสือ happening 'Hidden Tracks' จะมีเรื่องราวเบื้องหลังเพลงในอัลบั้มนี้ให้อ่านเพิ่มเติม โดยเฉพาะเพลง กระหายควัน ที่มีซีดีเพลงนี้ในเวอร์ชันเดโมให้ฟังด้วย สนใจอ่านรายละเอียดหนังสือได้ ที่นี่

อนิรุทร์ เอื้อวิทยา

นักเขียน และ ช่างภาพ อิสระ ปัจจุบันชนแก้วอยู่ท่ามกลางเพื่อนฝูงที่จังหวัดเชียงใหม่