10 สถานที่สุดอาร์ตในกรุงเทพฯ ที่น่าพาเพื่อนต่างชาติไปเยือน

    เคยไหม? เวลาที่มีเพื่อนชาวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวถึงกรุงเทพฯ แต่กลับนึกไม่ออกว่าจะพาไปไหนดี ฐานะเจ้าบ้านที่เติบโตและใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ทุกวัน อาจทำให้มองข้ามสถานที่ดีๆ ที่มีความเป็นศิลปะอยู่ทั่วเมืองหลวงแห่งนี้ไปบ้าง

    สำหรับคนที่ครอบครองหนังสือ happening 'Bangkok Art Scenes' ซึ่งรวบรวมซีนศิลปะสุดอาร์ตน่าเที่ยวในกรุงเทพฯ ไว้มากมายแล้ว คงมีไอเดียพาเพื่อนชาวต่างชาติที่กำลังเดินทางมาเมืองไทยในช่วงปลายปีนี้แบบเหลือเฟือ

    ถึงกระนั้น happening and friends ก็จะขอหยิบเอาบางสถานที่ในเล่มนี้มาให้ดูเป็นตัวอย่าง สำหรับคนที่ต้องการข้อมูลเดี๋ยวนี้! ตอนนี้! และกำลังกุมขมับว่าจะพาเพื่อนชาวญี่ปุ่น จีน เกาหลี ยุโรป สหรัฐอเมริกา ฯลฯ ที่นัดมาเจอกันวันนี้ไปที่ไหนดี ที่จะสามารถอวดความเก๋ไก๋ มีความหลากหลายทางศิลปะ โชว์วัฒนธรรมแบบร่วมสมัยและมีเอกลักษณ์ ให้ภาคภูมิใจได้ว่ากรุงเทพฯ ของเราเจ๋งขนาดไหน

    และนี่คือโปรแกรมเที่ยว 10 สถานที่อาร์ตๆ สูตรเร่งรัด ที่นำมาเสิร์ฟถึงหน้าจอของคุณ

ChangChui

    พื้นที่สร้างสรรค์อันร่มรื่นขนาด 11 ไร่ ที่ก่อสร้างขึ้นจากของเก่า มีทั้งอาคารอเนกประสงค์ โรงภาพยนตร์ ไลฟ์เฮาส์ แกลเลอรี เครื่องบินลำใหญ่ที่นำมาแปลงเป็นร้านอาหาร รวมถึงชิ้นงานศิลปะจากศิลปินทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่ที่จัดตั้งอยู่ตามจุดต่างๆ ซึ่งนอกจากจะขยันจัดคอนเสิร์ต ฉายหนัง ตลาดนัดศิลปะ และกิจกรรมมากมายที่ทำให้เดินทางมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปีแล้ว ล่าสุดนิตยสาร Time ยังเลือกช่างชุ่ยให้เป็น 1 ใน 100 สถานที่ที่ดีที่สุดของโลก จาก 1,200 สถานที่ที่เหล่าบรรณาธิการและนักข่าวจากทั่วทุกมุมโลกนำเสนอเข้ามาอีกด้วย

ที่อยู่: 460/8 ถนนสิรินธร แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร
วัน-เวลา: Green Zone เปิด 11.00-21.00 น., Night Zone เปิด 16.00-23.00 น. (หยุดวันพุธ)
ข้อมูลเพิ่มเติม: ChangChui
การเดินทาง: BTS สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ต่อรถแท็กซี่ หรือขึ้นรถประจำทางป้ายอนุสาวรีย์ฯ ฝั่งโรงพยาบาลราชวิถี ปอ. 515, ปอ. 539 ลงป้ายทางเข้าบางกรวย

The Jam Factory

    โครงการ เดอะ แจม แฟคตอรี่ แห่งนี้เกิดขึ้นจากการรีโนเวตอาคารเก่าย่านคลองสาน แล้วนำมาสร้างสรรค์เป็นแกลเลอรี ร้านหนังสือ คาเฟ่ ร้านอาหาร พื้นที่ศิลปะและไลฟ์สไตล์ ตลาดสินค้าดีไซน์ ภายในพื้นที่กว้างขวางริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในแบ่งออกเป็น 3 โซน ประกอบด้วย ร้านหนังสือ Candide Books กับ คาเฟ่ Li-bra-ry โซนที่ 2 คือ แกลเลอรีที่มีนิทรรศการศิลปะหมุนเวียนมาให้ชมตลอดปี โซนสุดท้ายคือร้านอาหารไทย The Never Ending Summer ที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยแบบที่ใครมาต้องลิ้มลอง

ที่อยู่: 41/1-5 ถนนเจริญนคร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร
วัน-เวลา: เปิดทุกวัน 11.00-20.00 น.
ข้อมูลเพิ่มเติม: The Jam Factory
การเดินทาง: BTS สถานีกรุงธนบุรี ทางออก 1 ต่อด้วยรถประจำทางที่ผ่านคลองสานพลาซ่าทุกสาย, BTS สถานีสะพานตากสิน ทางออก 1 ใช้บริการเรือข้ามฟากจากท่าเรือสาทร ไปยังท่าน้ำ est แล้วเดินออกมาที่ถนน จากนั้นข้ามทางม้าลายมาฝั่งตรงข้ามเพื่อเดินทางไปคลองสานพลาซ่า

Warehouse 30

    เมื่อความคิดสร้างสรรค์และการใช้งานมารวมกัน โกดังรกร้างจึงแปรเปลี่ยนเป็น Warehouse 30 พื้นที่ตอบสนองกิจกรรมหลากหลาย ตั้งแต่ One Big-House ที่เปลือยโครงสร้างโกดังและเปิดพื้นที่ตรงกลางให้โปร่งโล่งเพื่อรองรับการใช้งาน ตั้งแต่การแสดงงานศิลปะ คอนเสิร์ต หรือแฟชั่นโชว์ นักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าไปชมงานของ P.Tendercool Gallery ที่จัดแสดงเฟอร์นิเจอร์สวยๆ และมีภาพศิลปินมาจัดนิทรรศการหมุนเวียนให้ชม หรือช้อปในคอนเซปต์สโตร์หรือมาร์เก็ต แล้วไปกินอาหารและเครื่องดื่มอร่อยๆ ในโซน Food & Beverage ก่อนที่จะชมภาพยนตร์ที่ Doc Club Theater ซึ่งจัดโปรแกรมน่าสนใจมาให้อย่างสม่ำเสมอ

ที่อยู่: 52-60 ถนนเจริญกรุง แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร
วัน-เวลา: เปิดทุกวัน 11.00-22.00 น.
ข้อมูลเพิ่มเติม: Warehouse 30
การเดินทาง: BTS ลงสถานีสะพานตากสิน เดินไปถึงซอยเจริญกรุง 30 เข้าซอยประมาณ 100 เมตร อยู่ซ้ายมือ

LHONG 1919

    ในสมัยรัชกาลที่ 4 ฮวย จุ่ง ล้ง เป็นท่าเรือกลไฟที่ใหญ่ที่สุดของไทย ที่สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1850 โดยพระยาพิศาลศุภผล (ชื่น พิศาลบุตร) คนจีนที่เกิดในสยาม ซึ่งคนจีนที่โล้สำเภามาค้าขายหรือมาตั้งรกรากที่เมืองไทยจะมาขึ้นเรือที่ท่าแห่งนี้ทุกคน ส่วนหมู่อาคารสถาปัตยกรรมจีนแบบ ซาน เหอ หยวน แบ่งเป็นห้องสำหรับร้านค้าจัดแสดงสินค้า แล้วใช้ห้องชั้นบนเป็นที่อยู่อาศัย ก่อนที่นายตัน ลิบ บ๊วย แห่งตระกูลหวั่งหลี ซึ่งเคยเป็นผู้เช่าร้านมาก่อน จะรับช่วงครอบครองต่อจากตระกูลพิศาลบุตร ใน ค.ศ. 1919 และทำการบูรณะเชิงอนุรักษ์เพื่อคืนชีวิตให้กับท่าเรือประวัติศาสตร์แห่งนี้ เพื่อรอให้ผู้คนเข้ามาค้นเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมายที่เกิดขึ้นในอดีต

ที่อยู่: 248 ถนนเชียงใหม่ แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร
วัน-เวลา: เปิดทุกวัน 08.00-20.00 น.
ข้อมูลเพิ่มเติม: LHONG1919
การเดินทาง: BTS สถานีสะพานตากสิน แล้วขึ้นเรือด่วนธงส้มมาลงที่ท่าเรือราชวงศ์ ต่อเรือข้ามฟากมาลงที่ท่าดินแดง จากนั้นเดินเข้าซอยวัดทองธรรมชาติจนสุดซอย หรือ BTS สถานีกรุงธนบุรีแล้วนั่งแท็กซี่มาลงที่ซอยวัดทองธรรมชาติ

The Museum of Floral Culture

    พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้แห่งนี้ตั้งอยู่ในเรือนไม้ 2 ชั้นสไตล์โคโลเนียลอายุกว่าร้อยปี ซึ่งพื้นไม้สีเข้ม ผนังสีนวล โต๊ะ เก้าอี้หวาย และต้นไม้ดอกไม้ที่รายล้อมอยู่ทำให้สถานที่แห่งนี้ร่มรื่น สามารถเดินดูทั้งภายในและภายนอกได้อย่างเพลิดเพลินนัก นอกจากนิทรรศการทั้ง 7 ห้องที่บอกเล่าเรื่องราวของวัฒนธรรมการจัดดอกไม้แล้ว ยังมี Cafe BOTANICA ที่ให้บริการโฮมเมดเบเกอรี่และเครื่องดื่มทุกวันทำการ แล้วเพิ่มบริการอาหารกลางวันในวันเสาร์และวันอาทิตย์

ที่อยู่: 315 ถนนสามเสน ซอย 28 แยกองครักษ์ 13 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
วัน-เวลา: วันอังคาร-วันอาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) 10.00-18.00 น.
ข้อมูลเพิ่มเติม: The Museum of Floral Culture
การเดินทาง: BTS สถานีอารีย์ แล้วต่อแท็กซี่

Tep Bar

    บาร์สไตล์ตะวันตกที่กระจายตัวอยู่ทั่วกรุงเทพฯ หลบไป เพราะ เทพบาร์ คือบาร์สไตล์ไทยที่ซุกอยู่ในตึกเก่าอายุกว่าร้อยปีในซอยยี่สิบสองกรกฎาคม สำหรับคนที่นิยมบรรยากาศในการดื่มกิน สามารถสั่งเครื่องดื่มที่นำชื่อของตัวละครในวรรณคดีมากมายมาลิ้มลอง ซึ่งนอกจากจะได้กระดกยาดองจากภูมิปัญญาพื้นบ้านแล้ว ยังได้สดับรับฟังการแสดงดนตรีไทยร่วมสมัยกลั้วการร่ำสุราอีกด้วย

ที่อยู่: ซอยยี่สิบสองกรกฎาคม 4 แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร
วัน-เวลา: วันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี 17.00-00.00 น.    
          วันศุกร์-วันเสาร์ 17.00-01.00 น.
ข้อมูลเพิ่มเติม: Tep Bar
การเดินทาง: MRT สถานีหัวลำโพง

Studio Lam & Zudrangma

    สำหรับผู้รักดนตรี เราอยากชวนมาเสาะหาขุมทรัพย์ทางดนตรีที่บาร์ลุควินเทจ สตูดิโอลำ ที่เป็นจุดกึ่งกลางระหว่างความไทยและสากลด้วยรสชาติสุดกลมกล่อม และร้านแผ่นเสียงซึ่งมีความหลากหลายทางดนตรีจากชาติต่างๆ (เวิลด์มิวสิก) ที่ชื่อ สุดแรงม้า ที่เชื่อได้ว่าคนรักแผ่นเสียงจะต้องฝังตัวอยู่ได้ตลอดทั้งคืน นอกจาก 2 ร้านนี้จะอยู่ใกล้กันในซอยสุขุมวิท 51 แล้ว ยังมี WTF Gallery and Café คั่นอยู่ตรงกลางให้แวะไปชมงานศิลปะเพลินๆ เรียกได้ว่าไปที่เดียวเก็บบรรยากาศอาร์ตๆ ได้อย่างคุ้มค่าทีเดียว

ที่อยู่: 3/1 และ 7/1 สุขุมวิท 51 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
วัน-เวลา: สตูดิโอลำ วันอังคาร-วันอาทิตย์ 18.00-00.00 น. (หยุดวันจันทร์)
สุดแรงม้า วันพุธ-วันอาทิตย์ 12.00-20.00 น. (หยุดวันจันทร์และวันอังคาร)
ข้อมูลเพิ่มเติม: Studio Lam / Zudrangma
การเดินทาง: BTS สถานีทองหล่อ

Neilson Hays Library

    ห้องสมุดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักที่นายแพทย์โธมัส เฮย์วาร์ด เฮส์ สร้างให้แก่ นางเจนนี เนียลสัน เฮส์ ภรรยาที่ทุ่มเททำงานให้แก่สมาคมห้องสมุด ผู้ล่วงลับไป จึงทำให้กรุงเทพฯ มีห้องสมุดที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอคลาสสิกที่งดงามอยู่ในสวนร่มรื่น เมื่อเข้าไปใช้บริการจึงสามารถซึมซับบรรยากาศย้อนยุคท่ามกลางหนังสือภาษาอังกฤษมากมายที่รายล้อมอยู่ ด้านในยังมีมุมสำหรับเด็กที่จัดกิจกรรมเล่านิทานทุกวันเสาร์ และโซนแกลเลอรีที่จัดแสดงนิทรรศการศิลปะหมุนเวียนให้ได้ชมนอกเหนือจากการอ่านด้วย

ที่อยู่: 195 ถนนสุรวงศ์ แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร
วัน-เวลา: วันอังคาร-วันอาทิตย์ 09.30-17.00 น. (หยุดวันจันทร์และวันหยุดราชการ)
ข้อมูลเพิ่มเติม: Neilson Hays Library
การเดินทาง: ใกล้กับ BTS สถานีช่องนนทรี ทางออก 3 หรือ MRT สถานีสามย่าน

The Hop

    ใครจะคิดว่าที่กรุงเทพฯ มีสตูดิโอสำหรับกลุ่มคนที่รักการเต้นสวิงซ่อนอยู่ The Hop พาทุกคนย้อนไปยังยุค 1930 ซึ่งดนตรีสวิงแจ๊ซที่เปี่ยมไปด้วยจังหวะและลีลารื่นเริง ดึงดูดผู้คนให้ออกมาพบปะสังสรรค์และเต้นรำกันอย่างรื่นรมย์ สำหรับคนที่ไม่เคยฝึกเต้นมาก่อน ที่นี่มี Open Class พร้อมผู้สอนที่ชวนทุกคนมาขยับไปด้วยกันทีละก้าว ก่อนที่จะเพิ่มทักษะของตัวเองและสนุกไปกับเสียงเพลงได้อย่างไม่เคอะเขิน

ที่อยู่: ชั้น 3 เลขที่ 252/8 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร
วัน-เวลา: Social Dancing ทุกคืนวันอังคารและวันเสาร์ ค่าเข้า 200 บาท เริ่มด้วย Open Class 20.00-20.30 น. (คลาสฟรี) ก่อนที่จะเต้นสวิงต่อใน Social Dancing 20.30-23.00 น.
ข้อมูลเพิ่มเติม: The Hop  หรือ Facebook The Hop
การเดินทาง: BTS สถานีช่องนนทรี ทางออก 3 จากนั้นเดินประมาณ 7 นาที The Hop อยู่ระหว่างสีลมซอย 18 กับ 20

Bangkok Art and Culture Centre

    หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร คืออาร์ตเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองและเข้าชมฟรี ในอาคาร 9 ชั้น เป็นอีกหนึ่งสถานที่ทางศิลปะที่ได้รับความนิยมจากทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยว มีจำนวนผู้เข้าชมเกือบสองล้านคนต่อปี ประกอบไปด้วยพื้นที่ศิลปะและอาร์ตฮับ มีทั้งร้านขายสินค้า สมาคม คาเฟ่ และร้านอาหารเครื่องดื่มเปิดให้บริการ โดยคนรักศิลปะต้องไม่พลาดที่จะเดินขึ้นไปชมนิทรรศการชั้น 7-9 ที่นำผลงานจากศิลปินที่น่าสนใจหมุนเวียนมาจัดให้ชมทุก 1-2 เดือน เรียกได้ว่าใช้เวลาอยู่ที่หอศิลป์แห่งนี้ได้ตลอดทั้งวัน

ที่อยู่: 939 ถนนพระรามที่ 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
วัน-เวลา: วันอังคาร-วันอาทิตย์ 10.00-21.00 น. (หยุดวันจันทร์)
ข้อมูลเพิ่มเติม: bacc
การเดินทาง: BTS สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ทางออกที่ 3 มีทางเชื่อมเข้าสู่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ชั้น 3


อ่านแง่มุมด้านศิลปะ ทั้งสถานที่ เทรนด์ และบุคคลที่น่าสนใจในแวดวงศิลปะกรุงเทพฯ ได้ในหนังสือ happening 'Bangkok Art Scenes' สนใจสั่งซื้อหนังสือคลิก ที่นี่

ดุสิตา อิ่มอารมณ์

นักเขียน ผู้ใช้พื้นที่ในเวลาว่างไปกับการอ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง ขี่จักรยาน อ่านการ์ตูน เล่นเลโก้ ฯลฯ โดยเชื่อเต็มหัวใจว่าเวลาที่หมดไปกับความรื่นเริงนี้สามารถเติมเต็มชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ