ชั่วโมงบินของมือกีตาร์ร้อยวง: เบิร์ด-อดิศักดิ์ พวงอก

    บางคนเรียกชายหนุ่มคนนี้ว่า 'มือกีตาร์ร้อยวง'

    เบิร์ด-อดิศักดิ์ พวงอก เป็นที่รู้จักในหมู่นักฟังเพลงตั้งแต่ตอนที่เขาเป็นมือกีตาร์ของวง Desktop Error ก่อนที่บทบาทของเขาจะขยับขยายออกไปเรื่อยๆ จนกลายมาเป็นหนึ่งในนักดนตรีที่ได้ร่วมงานกับศิลปินมากมายที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้-บางทีอาจจะมากที่สุดในวงการดนตรีตอนนี้เลยก็ว่าได้

    เราหลบไอร้อนของบ่ายวันศุกร์เข้าไปนั่งพูดคุยกันในห้องซ้อมดนตรีย่านมีนบุรีที่ชื่อ 'Bird Sound' เบิร์ดต้อนรับเราด้วยรอยยิ้มและท่าทีสบายๆ เป็นกันเอง หากใครที่ดูคอนเสิร์ตบ่อยๆ และติดตามวงดนตรีและศิลปินอย่าง Greasy Cafe, Sqweez Animal, Hugo, Pru, อรอรีย์, พราย-เมธีโปรเจกต์ ต้องร้องอ๋อออกมาเมื่อเห็นหน้าหนุ่มคนนี้ เพราะว่าเบิร์ดเป็นมือกีตาร์ที่ร่วมเล่นอยู่ในวงเหล่านั้นมาแล้วทั้งหมด และนั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีวงดนตรีนอกกระแสอีกไม่น้อยที่เขาได้ร่วมแจมกีตาร์และเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานเพลง

    "ผมรู้สึกว่าสังคมดนตรีบ้านเราก็ไม่ได้กว้างมาก ส่วนหนึ่งก็มาจากคนรู้จักแนะนำชักชวนกันไป ตอนได้ไปเล่นให้ Hugo แฟนของปาล์มมี่ก็พาไปให้รู้จัก ซึ่งแฟนของปาล์มมี่เองรู้จักกับ โคอิชิ (Koichi Shimizu) หัวเรือของค่าย SO::ON Dry Flower ที่วงหลัก Desktop Error เคยทำงานร่วมกันก่อนที่ค่ายนี้จะปิดตัวลงในเวลาต่อมา และเคยไปช่วยเล่นเบสให้กับ พราย-เมธี โปรเจกต์ พี่เมธี มือกีตาร์วงโมเดิร์นด็อกก็แนะนำให้ไปรู้จักกับวงอรอรีย์ก็เกิดการชักชวนกันต่อไปอีก"

    เบิร์ดจัดการความรับผิดชอบในการเล่นกีตาร์หลายวงของเขา ด้วยการแบ่งสิ่งที่ต้องทำเป็นสองส่วนคือ วงที่ต้องเล่นตามต้นฉบับดีไซน์มา จะมีหน้าที่เล่นให้เหมือนที่สุดเท่าที่วงต้องการ เลียนเสียงซาวนด์ในแบบที่วงต่างๆ เป็นให้ออกมาคล้ายคลึงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาใช้เทคนิคการแกะเพลงที่ฝึกฝนตั้งแต่เริ่มต้นเล่นกีตาร์เข้ามาช่วยในการทำงานตรงนี้ และส่วนที่สองจะเป็นงานที่เขาเข้าไปมีส่วนร่วมในการคิดซาวนด์ดีไซน์ คิดไลน์กีตาร์ต่างๆ ล่าสุดกับการปล่อยอัลบั้ม ดำสนิท ของ Hugo เบิร์ดยังได้ร่วมบันทึกเสียงกีตาร์และแมนโดลิน ถึง 3 เพลง นอกจากนี้เขายังได้ไปบันทึกเสียงในอัลบั้มใหม่ของอรอรีย์อีกด้วย

        ในความหลากหลาย บางเวลาย่อมเกิดความสับสน แต่เบิร์ดบอกว่าการเล่นหลายวงทำให้เขาต้องมีวินัยมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า เตรียมทำการบ้านก่อนเข้าไปซ้อมกับวงที่ร่วมเล่น เพื่อให้งานโชว์ออกมาดีที่สุด และความบังเอิญเรื่องเวลาที่ค่อนไปทางโชคดีของเขานั้น ทำให้สามารถรับมือกับความหลากหลายที่มีได้ในระดับหนึ่ง แต่ถึงกระนั้นเขาเน้นย้ำว่าความพร้อมเป็นเรื่องที่ควรตระหนักนึกถึงที่สุดเสมอ

    ในเทศกาลดนตรีขวัญใจเด็กแมว Cat Expo 4 คนเล็กเพลงโต ของคลื่นวิทยุ Cat Radio ซึ่งจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา เชื่อหรือไม่ว่า เบิร์ดร่วมขึ้นเล่นกีตาร์ทั้งหมด 6 วง! ลองคิดเล่นๆ ว่าเทศกาลดนตรีที่มีเวทีราว 5-6 เวที ในฐานะผู้ชมที่ต้องวิ่งสลับเวทีไปมาเพื่อดูวงที่ชอบยังเหนื่อยแทบแย่ แล้วคนที่ต้องวิ่งไปมาหลายเวทีเพื่อขึ้นโชว์จะเหนื่อยกว่าขนาดไหนกัน

    "งาน Cat Expo ที่ปีผ่านมาเล่นทั้งหมด 6 วง เราก็ต้องพูดคุยกับทางผู้จัดงานให้เขาช่วยดูแลเรื่องเวลา เพื่อไม่ให้วงที่ไปเล่นกีตาร์ด้วยจัดตรงกัน ส่วนตัวก็ถือว่าเป็นอะไรที่สนุกมาก ได้ประสบการณ์เพิ่มขึ้น ได้ชั่วโมงบินที่คุ้มเหนื่อยไม่น้อย แต่กว่าจะมาถึงจุดที่เล่นเยอะเท่านี้ได้ เราก็ต้องแสดงความชัดเจนที่มีในตัวเองให้เขาสามารถไว้ใจเราได้ด้วย" เขายิ้มน้อยๆ หลังจบประโยค

    ผมนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เรานั่งพูดคุยกันอยู่ในห้องซ้อมดนตรีชื่อ 'Bird Sound' นอกจากจะเป็นชื่อของห้องซ้อมแล้วยังเป็นชื่อของค่ายเพลงที่เบิร์ดกับพี่ๆ น้องๆ ก่อตั้งขึ้นแบบมีที่มาที่ไปด้วยความบังเอิญ เขาเล่าย้อนกลับไปก่อนมีเบิร์ดซาวนด์ว่า ได้ฟังเพลง 'เสียงนก' ของศิลปิน West Of East จาก YouTube ฟังแล้วถูกจริตก็เลยชวนกันมาพูดคุยอัดเพลงที่บ้าน แล้วก็คุยกันทีเล่นทีจริงว่า จะทำค่ายเบิร์ดซาวนด์ ซึ่งก็ดันไปคล้องกับชื่อเพลง เสียงนก ด้วย จึงเกิดเป็นค่ายเพลงขึ้นมาแบบไม่มีการจดลิขสิทธิ์บริษัทใดๆ เป็นการทำงานแบบอินดี้สร้างดนตรีนอกกระแส! เบิร์ดจึงกลายเป็นหัวโจกรวมกลุ่มเพื่อนพี่น้องที่รู้จักมาทำเพลงร่วมกัน ซึ่งตอนนี้ในค่ายทีเล่นทีจริงมีศิลปินด้วยกันแล้วถึง 7 วง!

ภาพจากปกอัลบั้ม 'สหายแห่งสายลม' โปรเจกต์เดี่ยวของเบิร์ด

    นอกจากฝีมือการเล่นกีตาร์แล้ว เขายังมีความสามารถในการเล่นเครื่องดนตรีได้หลายชนิด อาทิ พิณ, Lap Steel Guitar (เครื่องดนตรีที่มีลักษณะเหมือนกีตาร์แต่มีวิธีเล่นด้วยการวางแนวนอน), แมนโดลิน และ ฮาร์โมนิกา นอกจากนี้ยังมีเครื่องดนตรีอีกชนิดที่ชื่อ เรโซเนเตอร์ กีตาร์ (Resonator Guitar) เป็นกีตาร์ที่ทำด้วยโลหะ ความเฉพาะตัวของเครื่องดนตรีชนิดนี้เองทำให้เบิร์ดชอบในน้ำเสียง จากนั้นจึงเกิดเป็นเมโลดี้เพลงหนึ่งขึ้นมา ซึ่งได้กลายเป็นเพลง 'ดีแล้ว' ที่นำไปสู่การต่อยอดเป็นอัลบั้มแรกในโปรเจกต์เดี่ยวของเขา มีชื่อวงที่พี่ชายตั้งให้คือ 'สหายแห่งสายลม' วงดนตรีที่มีกลิ่นอายเนื้อหาสอดแทรกความเป็นเพื่อชีวิต บวกกับเสียงเครื่องดนตรีหลากหลายชนิด ผสมผสานเป็นซาวนด์ดนตรีแบบวงร่วมสมัยน่าฟัง สำหรับ 'สหายแห่งสายลม' เบิร์ดไม่เพียงแต่จะรับหน้าที่มือกีตาร์เท่านั้น เขายังมีบทบาทเป็นนักร้องนำของวงด้วย และที่สำคัญที่สุดคือ เจ้าของฉายามือกีตาร์ร้อยวงคนนี้ไม่ได้ศึกษาด้านดนตรีมาในรั้วมหาวิทยาลัยแต่อย่างใด ในวันนี้เขาจึงเป็นอดีตนักเรียนช่างศิลป์ที่มีอาชีพหลักเป็นนักดนตรี ซึ่งเป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ว่า การเรียนรู้ในห้องเรียนนั้นอาจไม่สำคัญเท่าความรักและความมุ่งมั่นทุ่มเทที่มี

    เจ้าของห้องซ้อม Bird Sound ทิ้งท้ายกับเราไว้ว่า การได้เล่นกีตาร์ให้กับวงดนตรีหลายวงเป็นเรื่องที่ดี ทำให้ได้เดินทางไปในหลายๆ สถานที่ ได้เที่ยว ได้รู้จักพบเจอผู้คนมากมาย ได้ประสบการณ์ในงานแสดงดนตรี ได้พบเจอสิ่งแปลกใหม่ ได้เปิดหูเปิดตา และนำแรงบันดาลใจใหม่ๆ มาสร้างผลงาน เป็นความสุขที่ได้ทำงานในวงการนี้

    จากแววตาและน้ำเสียง เราบอกได้ว่าวันนี้นอกจากจะเป็นอาชีพของเขาแล้ว ดนตรียังเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตของเบิร์ดแน่นอน

Favorite Something
  •   Into the Wild (2007), Paris, Texas (1984), Crossroads (1986)
  •   Jeff Buckley, Moderndog
  •   Jonathan Livingston Seagull
  •   Richard Bach

อธิวัฒน์ อุต้น

ชื่อแดนซ์ยังคงตามหาว่ามีใครใช้ชื่อนี้ซ้ำกันไหมและหวังจะพบในสักวัน บางครั้งก็จับกีตาร์ บางครั้งก็จับปากกา บางครั้งก็จับกล้อง (แต่ไม่มีครั้งไหนที่จะไม่ไล่จับความฝัน)