ในวิถีชีวิตประจำวันที่เรามักมองเห็นความเคลื่อนไหวของผู้คน สิ่งของ และความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ตลอดเวลา อาจทำให้เรามองข้ามพลังงานดีๆ และความคิดสร้างสรรค์ของผู้คนที่มีอยู่ในกรุงเทพมหานครแห่งนี้อยู่บ่อยๆ แต่เมื่อเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2565 หรือ Bangkok Design Week 2022 มาถึง บรรดาโชว์เคส นิทรรศการ การบรรยาย เวิร์กช็อป กิจกรรม และโปรแกรมต่างๆ ที่น่าสนใจ เข้ามาตอกย้ำให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมว่า ในมหานครแห่งนี้มีคุณค่าของงานออกแบบและไอเดียสดใหม่เกิดขึ้นอยู่มากมายและสม่ำเสมอ
เมื่อเทศกาลนี้พูดถึงงานออกแบบกรุงเทพฯ เราจึงอยากรู้ว่า เมืองกับการออกแบบมีส่วนเกี่ยวข้องกันหรือไม่ เราเลยชวนชวน จิ-จิรายุ คูอมรพัฒนะ ศิลปินและดีไซเนอร์ที่ใช้ชื่อว่า Jirayu Koo ผู้เคยร่วมงานกับแบรนด์ระดับนานาชาติมากมาย และ แก๊ป-ธนเวทย์ สิริวัฒน์ธนกุล นักแสดง พิธีกร คอนเทนต์ครีเอเตอร์ หรือ ยูทูบเบอร์ช่อง gapthanavate ที่เกี่ยวกับงานออกแบบ และ ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ a piece(s) of paper มาร่วมแสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้
แก๊ปแสดงความเห็นว่า เมืองมีส่วนต่อความคิดสร้างสรรค์ของคนอย่างชัดเจน โดยเขาขยายความต่อไปถึงการออกแบบเมืองด้วย "ส่วนแรก ถ้ามองเรื่องการออกแบบเมืองที่เท่ากับการออกแบบผังเมืองนะครับ การออกแบบผังเมืองเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่ และเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะมันส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของคนที่อาศัยอยู่ในเมือง การออกแบบผังเมืองเป็นลักษณะของการคิดอย่างเป็นระบบระเบียบและมีการวางรากฐานของเมือง ซึ่งประกอบไปด้วยการจัดแบ่งพื้นที่ต่างๆ เช่น พื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่โรงงานอุตสาหกรรม พื้นที่เชิงพาณิชย์ พื้นที่ต่างๆ เหล่านี้ถ้าถูกจัดระเบียบแล้วแบ่งแยกได้เป็นอย่างดี มันจะทำให้ปัญหาต่างๆ ที่เราเจอกันอยู่ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาการจราจร รถติด มลพิษ ความแออัดหนาแน่น ทุกอย่างจะถูกคลี่คลายได้ถ้ามันถูกออกแบบมาอย่างดี"
ซึ่งจิเห็นด้วยกับเรื่องนี้ "มีส่วนอย่างมาก เพราะสภาพแวดล้อมที่ดีที่เกิดจากการออกแบบเมืองอย่างเหมาะสม จะช่วยให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างลื่นไหล ไร้กังวล ซึ่งเป็นส่วนสำคัญขั้นพื้นฐานในการมีคุณภาพชีวิตที่ดี เมื่อทุกคนไม่ต้องมาเสียพลังงานและเวลาติดขัดไปกับปัญหาและความวุ่นวายของเมือง เราก็จะสามารถใช้เวลาและพลังงานเหล่านั้นมาคิดสร้างสรรค์ และลงมือทำสิ่งอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ได้มากขึ้น" เธอยกตัวอย่างให้ฟังเพิ่มเติมว่า "แค่เราไม่ต้องรถติดอยู่บนถนนนานอย่างทุกวันนี้ หรือถ้าเราสามารถใช้บริการรถสาธารณะได้อย่างเต็มที่ เพราะมันเข้าถึงทุกมุมเมือง เราก็คงมีกำลังใจที่จะเดินทางไปชมงานศิลปะตามสถานที่ต่างๆ กันมากขึ้น หรือไม่รู้สึกท้อเกินไปที่จะลองไปสำรวจพื้นที่ใหม่ๆ เพื่อหาแรงบันดาลใจในอีกฟากหนึ่งของเมือง"
เขาเสริมเรื่องการออกแบบเมืองในแง่ของสิ่งต่างๆ ที่เรามองเห็นผ่านเมือง เช่น เฟอร์นิเจอร์ สถาปัตยกรรม แลนด์สเคปที่แทรกอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ป้ายริมถนน หรือโฆษณาบนบิลบอร์ดขนาดใหญ่ว่า "การออกแบบที่มีความคิดสร้างสรรค์ในสิ่งต่างๆ ที่ผู้คนสามารถเห็นและจับต้องได้ มีส่วนช่วยให้คนเกิดความคิดสร้างสรรค์โดยตรง เพราะเวลาที่เราเห็นอะไรบางอย่าง เรารับรู้ได้จากดวงตาของเราว่ามันสวยงาม น่ามอง ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจะส่งผลต่อสภาพจิตใจของเรา ซึ่งผมเชื่อว่ามันเชื่อมโยงไปถึงทางกายด้วยไม่มากก็น้อย แล้วในแง่ความคิดสร้างสรรค์ ผมเองทำงานเป็นครีเอทีฟโฆษณามาก่อนรวมถึงการเป็นดีไซเนอร์ด้วย หลายสิ่งที่คนเรียกว่าเป็นแรงบันดาลใจ ผมว่ามันเกิดจากการที่เรามองเห็นเยอะ เราอ่านเยอะ มีสิ่งผ่านตาเรามามาก หรือแม้กระทั่งการที่เราได้เจอประสบการณ์ต่างๆ สิ่งเหล่านี้ค่อยๆ ซึมซับและหล่อหลอมเราไปทีละนิดครับ ซึ่งผมว่ามันส่งผลต่อการทำงานของเราอย่างชัดเจน"
จิแบ่งปันประสบการณ์ตรงของตัวเองที่ได้ไปเรียนและใช้ชีวิตที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ให้ฟังว่า "ประเทศอังกฤษเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับศิลปะทุกแขนงค่ะ ลอนดอนเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ทั้งใหญ่และเล็กจิ๋ว เมืองที่การชมงานศิลปะไม่ได้แปลว่าต้องเข้าไปในพิพิธภัณฑ์หรือแกลเลอรี่เสมอไป เพราะการไปเดินสวนสาธารณะก็มีงานศิลปะจัดแสดง แม้แต่การเข้าไปซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือเดินทางด้วยรถขนส่งสาธารณะก็มีงานศิลปะให้พบเห็นอยู่ทั่วไป เราจึงรู้สึกได้ถึงการอยู่ร่วมกันของศิลปะในชีวิตประจำวันจริงๆ และด้วยการเดินทางด้วยรถขนส่งสาธารณะที่สะดวกสบายตรงเวลาเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ผู้คนสามารถกะเวลาและวางแผนการใช้ชีวิตได้อย่างเป็นจริง ทำให้ใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่า หรือการที่รวมเอาพิพิธภัณฑ์ที่หลากหลายไว้ในพื้นที่ใกล้เคียงกันจนสามารถเข้าชมอย่างต่อเนื่องจากอีกที่สู่อีกที่ได้ด้วยการเดินเท้า ทำให้เราพบเห็นผู้คนทุกเพศทุกวัยมาเข้าชมกันอยู่ตลอด มันเหมือนกับเมืองเอื้อให้คนได้ใช้ศักยภาพของสถานที่ สิ่งแวดล้อม และเวลาได้อย่างเต็มที่ ซึ่งนั่นก็จะไปช่วยผลักดันให้คนสามารถดึงเอาศักยภาพของตัวเองออกมาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพไปในตัวด้วยนั่นเอง"
Bangkok Design Week 2022 เป็นหนึ่งในเทศกาลที่นำงานออกแบบและไอเดียดีๆ มารวมไว้ รวมถึงมีแบรนด์ดีไซน์ฝึมือคนไทยที่น่าสนใจมากมายมาจัดแสดงและจัดจำหน่ายให้คนรู้จักกันด้วย เราจึงชวนทั้งคู่มาพูดคุยถึงแบรนด์ที่น่าสนใจเหล่านั้นให้ฟังสักหน่อย

เสื้อผ้า กระเป๋า และผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ Thahomemade เปลี่ยนภาพของผ้าบาติกที่คุ้นเคยให้มีรูปแบบและสีสันเฉพาะตัว โดยยังคงคุณค่าของเทคนิกบาติกที่ใช้สีย้อมจากธรรมชาติ และกระบวนการผลิตแบบการพิมพ์ผ้าธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเอาไว้
จิกล่าวถึงแบรนด์นี้ในประโยคแรกว่า "เปิดมาเจอผ้าบาติกของที่นี่แล้วถึงกับต้องหยุดดู" ก่อนที่จะเล่าถึงความประทับใจต่อว่า "เราเลือกจากเหตุผลง่ายๆ เลยคือ ถ้ามีชิ้นไหนที่ตัวเองเห็นแล้วอยากใส่เอง แปลว่าแบรนด์นั้นได้ใจเราไปแล้ว แต่นอกเหนือไปจากนั้น เราชอบที่เขามีการทำลวดลายที่ไม่เป็นแบบเดิมที่เคยเห็นบนผ้าบาติกจนชินตามาตลอด ชอบการใช้วัสดุแลกระบวนการที่เป็นธรรมชาติจริงๆ ในการทำ"
สำหรับแก๊ป "ผมชอบที่งานมีดีไซน์ชัดเจนและเป็นการผลิตจากคนในครอบครัวที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ คือเป็นงานแฮนด์เมดจากคนพื้นถิ่นด้วยครับ ผมว่างานของเขามีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน และจุดที่น่าสนใจเลยคือ เราเห็นงานบาติกหลายๆ งานของเขาแล้วมันเป็นแพตเทิร์นที่แตกต่าง เราไม่เคยเห็นที่ไหน ถ้าเกิดว่าคุณชอบงานบาติก นี่ก็เป็นผลิตภัณฑ์บาติกอีกอย่างที่แตกต่างจากที่คุณมี และคุณควรจะมีไว้เป็นเจ้าของสักชิ้นหนึ่ง"
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: Thahomemade
ความเชี่ยวชาญด้านการผลิตรองเท้ายางพาราที่สะสมมากว่า 50 ปี GEMIO เลือกนำวัตถุดิบยางพาราธรรมชาติของชาวสวนยางมาผสานกับเทคโนโลยีที่สามารถผสมเศษผ้าที่เหลือจากการผลิตเข้ากับยางพาราเพื่อเสริมแรงให้วัสดุ พื้นรองเท้าจึงซัพพอร์ตไลฟ์สไตล์ไปพร้อมๆ กับดูแลสุขภาพเท้าของผู้ใช้ ขณะที่รูปแบบและสีสันของรองเท้าที่หลากหลายใช้ผ้าทอมือจากคนในท้องถิ่น จึงมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
"GEMIO ที่ชื่นชอบหลักๆ คงเป็นเรื่องอีโค่เฟรนด์ลี่ เพราะผมสนใจแบรนด์ในลักษณะนี้อยู่แล้ว ผมรู้สึกว่าการอัพไซคลิ่ง (upcycling) จะมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตนะครับ" ซึ่งแก๊ปมองว่า หากมีโอกาสก็อยากแนะนำให้คนหันมาสนับสนุนแบรนด์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเหมือนกัน
จิเสริมในแง่วัสดุและดีไซน์ "ชอบที่เขาหยิบเอายางพารามาผสมเข้ากับเศษผ้าทอของชาวบ้าน เพื่อทำออกมาเป็นรองเท้าในแบบต่างๆ และนอกจากความสวยงามแล้วส้นรองเท้าเขาก็ยังคิดมาให้เข้ากับสรีระเท้าของคนใส่อีกด้วย"
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: GEMIO
คนที่ชื่นชอบศิลปะรอยสักแต่ไม่กล้าสักก็สามารถมีรอยสักเท่ๆ ไว้สวมใส่ได้เหมือนกัน CHECQO. เป็นแบรนด์รองเท้าหนังที่นำรอยสักมาวาดลวดลายไว้ นอกจากนั้นยังมีรองเท้าอีกหลายทรงที่นำรูปแบบการสานมาใช้
แก๊ปชอบทั้งแนวคิดและเทคนิคที่แบรนด์นำมาใช้ "ผมชอบในความครีเอทที่เขาเข้าใจไปดึงเอารูปแบบลายสักไทยมาใส่ไว้ในโปรดักส์ครับ แถมเทคนิคของเขาคือการใช้เข็มสักจริงๆ มาลงบนหนังอีกด้วย มันเป็นกรรมวิธีที่มีเสน่ห์ และผมรู้สึกว่าเป็นจุดขายของแบรนด์เขาได้ด้วย ถ้าผมเป็นเจ้าของรองเท้าเอง ผมยังอยากเห็นเลยว่าตอนที่คุณสักลายนี้ให้ผมเป็นอย่างไร ถ้าคุณมีภาพหรือวิดีโอตอนที่สักส่งมาให้เรา มันคือการเพิ่มมูลค่า ผมรู้สึกว่ามีอะไรอีกหลายอย่างที่เขาพัฒนาต่อไปได้อีกเยอะมาก และมีเอกลักษณ์ในแบบไทยๆ ด้วย"
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: CHECQO.
แบรนด์ AIBELLE นำเศษด้ายที่เหลือจากโรงงานผ้าถักที่ยังคงมีคุณภาพดีมาสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยเทคนิคการถักผ้าด้วยเครื่อง จนเกิดเป็นวัสดุใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ที่เรียกว่า เชือกผ้าถัก ที่นำมาสร้างสรรค์เป็นกระเป๋าและเครื่องประดับ
แบรนด์นี้ทำให้จิถึงกับเอ่ยปากว่า "อยากได้เองอีกแล้ว! เราประทับใจแบรนด์นี้เพราะนอกจากของจะสวยสีสดใสน่าใช้แล้ว วัสดุที่เขานำมาใช้ยังถูกคิดและทำขึ้นมาใหม่เองจากด้ายเหลือใช้อีกด้วย"
"ผมชื่นชมแนวคิดของเขาเลยนะครับ ผมจะชื่นชมแบรนด์ที่เริ่มต้นจากปัญหาขยะ ปัญหาการผลิตของเหลือใช้ หรือปัญหาการบริโภคเกินพอดีบนโลกใบนี้ แต่สำหรับแบรนด์นี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะพัฒนาด้านเหลือใช้จนเกิดเป็นวัสดุใหม่ที่เขาเรียกว่า เชือกผ้าถัก แล้วกระเป๋ารุ่นที่ใช้วัสดุนี้วัสดุเดียวมาฟอร์มเป็นกระเป๋าได้ มันเป็นการใช้วัสดุนั้นเพียวๆ โดยไม่ใช้วัสดุอื่นเลย มันดูแตกต่าง ดูพิเศษ แล้วก็คิดว่าน่าจะต่อยอดไปเป็นพวกโปรดักส์ของแต่งบ้านได้อีกเยอะ ถือว่าน่าสนใจเลยครับ"
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: AIBELLE

KH EDITIONS เป็นแบรนด์แฟชั่นที่ไม่ต้องการก่อให้เกิดขยะจากอุตสาหกรรมแฟชั่นเพิ่มเติม จึงนำเส้นใยธรรมชาติมาผสมผสานกับเส้นใยสังเคราะห์ ซึ่งเป็นเส้นใยจากของเหลือทิ้งและเส้นใยรีไซเคิล แถมยังเป็นวัสดุไทย 100% ที่ใช้เทคนิคการทอแบบภูมิปัญญาพื้นถิ่นอีกด้วย
"ถ้าเทรนด์การนำวัสดุเหลือใช้จากอุตสาหกรรมแฟชั่นมาอัพไซเคิลกำลังอิน เราก็พร้อมจะสนับสนุน ยิ่งถ้ามีดีไซน์ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิตในปัจจุบันยิ่งถือเป็นโบนัส! อย่างหมวกของ KH Editions นี่ เรามองเห็นภาพตัวเองและคนรอบตัวใส่ได้อย่างชัดเจนเลย" จิทำให้เรานึกภาพตามไปด้วย
"แบรนด์นี้เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีเรื่องการแก้ปัญหาขยะจากอุตสาหกรรมแฟชั่น การนำเส้นใยรีไซเคิลมาผสมผสานกับเส้นใยธรรมชาติ แล้วสุดท้ายโปรดักส์ที่ได้ออกมามีคาแรกเตอร์บางอย่างที่พิเศษ ผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนคิดเยอะ มีลูกเล่นเยอะ เราจะเห็นว่าหมวกของเขามีหลายฟังก์ชั่นมากๆ ทำให้มันยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ตามลักษณะการใช้ ในแง่ของลวดลายแพทเทิร์นเอง เขาทำเป็นกราฟิกขาวดำน้อยๆ ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางในการที่ครีเอทคาแรกเตอร์ของแบรนด์ให้ดูน่าจดจำครับ"
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: KH EDITIONS
สินค้าและของใช้จากแบรนด์ moreover มักจะสร้างสรรค์ลูกเล่นให้รูปทรงที่คุ้นเคยกลายเป็นสิ่งใหม่ที่ใช้งานได้สนุกสนาน โดยความเรียบง่ายของดีไซน์นั้นยังทำให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และสถานที่ต่างๆ ได้ง่าย
จิให้ความเห็นว่า "เราชอบการออกแบบของใช้ที่เรียบง่ายของ moreover ที่เหมาะกับการนำไปอยู่ร่วมกับสิ่งอื่นๆ ได้อย่างไม่เคอะเขิน เพราะบางครั้งเราก็ต้องการของใช้ที่ไม่ฉูดฉาดเอะอะมะเทิ่งบ้าง เห็นแล้วสบายตา ไม่ตะโกนเรียกร้องความสนในจนเกินไป ในขณะเดียวกันในความเรียบง่ายของของแต่ละชิ้นนั้นก็เหมือนเป็นการเปิดพื้นที่ให้เราสามารถมีส่วนร่วมใส่ความเป็นตัวเราลงไปได้ด้วย ส่วนตัวชอบชิ้นหิ้งพระเป็นพิเศษ ดูเหมาะกับลักษณะพื้นที่อยู่อาศัยของคนในปัจจุบัน"
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: moreover

เทียนไขถั่วเหลืองของ Wax Valley ออกแบบกลิ่นที่สร้างบรรยากาศเฉพาะตัวให้คนจุดนึกถึงประสบการณ์ต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับตัวเอง แล้วยังมีผลิตภัณฑ์ก้านไม้หอมน้ำมันธรรมชาติที่เป็นทางเลือกสำหรับคนชอบเครื่องหอมอีกด้วย
ส่วนตัวจิชอบเครื่องหอมอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้เธอสนใจแบรนด์นี้เป็นพิเศษคือ "ชอบตรงที่เขาเลือกใช้ส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติ ตัวเทียนที่มีเบสทำมาจากไขถั่วเหลือง จุดแล้วไม่มีเขม่าดำให้เสียบรรยากาศ แถมน้ำตาเทียนก็ไม่ร้อนจนเกินไป สามารถเอามานวดตัวได้อีกต่างหาก แต่ที่เก๋สุดคงต้องเป็นการที่เค้ามีกลิ่นที่ไม่ซ้ำใครอย่างกลิ่นของสถานที่ต่างๆ เกาะสมุยเอย เยาวราชเอย ไปจนถึงกลิ่นห้องสมุด!"
แก๊ปชอบคาแรกเตอร์ของกลิ่นที่แบรนด์สร้างสรรค์ขึ้น "ผมคิดว่าการที่ใครคนหนึ่งจะลุกขึ้นมาทำแบรนด์เครื่องหอมไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สิ่งที่เขาหาทางให้โปรดักส์โดดเด่นขึ้นมาได้คือการสร้างคาแรกเตอร์ของกลิ่น เช่น กลิ่นของสถานที่ หรือกลิ่นที่บ่งบอกความเป็นไลฟ์สไตล์ คุณทำกลิ่นดอกไม้เหรอ แต่ของผมกลิ่นพัทยา กลิ่นกรุงเทพฯ กลิ่นห้องสมุด เป็นไงล่ะ ผมว่ามันทำให้เราอยากรู้มากๆ ว่า กลิ่นพัทยาเป็นยังไง เขาตั้งใจให้กลิ่นตั้งคำถามกับผู้คน แล้วเราอยากหาคำตอบ นอกจากนั้นเขายังสนุกกับการที่ผสมกลิ่นเฉพาะให้กับลูกค้าได้ด้วยครับ มันเห็นวิธีการในการทำการตลาดได้อีกยาวเลย"
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: Wax Valley
อีกหนึ่งแบรนด์เทียนหอมที่สร้างความประหลาดใจให้กับผู้พบเห็น ด้วยการนำรูปทรงธรรมชาติ เช่น ก้อนหิน ต้นกระบองเพชร หรือ สิ่งคุ้นตาอย่างขนม มาทำเป็นเทียนหอมที่จะวางโชว์ก็ได้ จะจุดเพื่อความสว่างให้เปลวเทียนไหวๆ ก็ดี
แก๊ปบอกว่านี่เป็นแบรนด์เทียนหอม แต่มีการสร้างคาแรกเตอร์อีกแบบหนึ่งที่น่าสนใจ "KUSU เขาจะเล่นกับสิ่งของใกล้ตัวเรา สิ่งที่ผมชอบที่สุดคือก้อนหิน เพราะพื้นผิวและสีของมันเนียนอะ ทึ่งที่เขาสามารถสร้างพื้นผิวและสีที่ออกมาดูเหมือนหิวมาก เลยทำให้คนรู้สึกว่าโปรดักส์นี้มันพิเศษ ยิ่งตัวที่เป็นหินในสวนแบบเซน เราสามารถลากทรายให้เกิดแพทเทิร์นได้ เลยเป็นการต่อยอดให้กลายเป็นเทียนที่สามารถนำมาแต่บ้านได้ด้วย ไม่ได้จบที่เทียนอย่างเดียว"
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: KUSU
Humeme ทำให้รู้ว่าปูนซีเมนต์ไม่ได้ใช้ในการก่อสร้างเท่านั้น แต่ยังนำมาสร้างสรรค์เป็นของใช้ในชีวิตประจำวันและของแต่งบ้านได้ด้วย
จิสนใจวัสดุที่แบรนด์เลือกนำวัสดุที่เหลือจากการผลิตอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น เศษกระจก เศษปูน หรือเศษกระดาษ ที่ผ่านกระบวนการย่อยแล้วมาใช้ "ชอบตัววัสดุซีเมนต์ที่เขานำมาใช้เข้าคู่กับการทำลายแพทเทิร์นจากเศษแก้วที่เหลือจากอุตสาหกรรมการทำแก้ว ยิ่งเขาเลือกดีไซน์โดยใช้รูปทรงเรขาคณิตเป็นหลักยิ่งถูกใจ เพราะเป็นรูปทรงที่เราเองก็ชอบอยู่แล้ว ยังรู้สึกอีกด้วยว่าทางแบรนด์น่าจะมีของเก๋ๆ ออกมาในอนาคตอีกแน่ๆ เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เราจะติดตามดูการเติบโตของเขาไปเรื่อยๆ"
"ผมชอบการจับคู่สีของเขา เขาเลือกคู่สีมาได้ดี แล้วในแง่ของแพทเทิร์นและเท็กซ์เจอร์น่าสนใจ มันทำให้ของแต่งบ้านธรรมดาๆ ดูเก๋และดูโดดเด่นขึ้นมา ที่รู้สึกว่าพิเศษมากๆ คือเขาสามารถผลิตตามแบบที่เราเลือกได้" แก๊ปจึงคิดว่าคนที่ชอบตกแต่งบ้านจะต้องสนุกไปกับการสร้างสรรค์ร่วมกับแบรนด์นี้แน่นอน
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: Humeme
ความเชี่ยวชาญของสตูดิโอเป่าแก้ว ทำให้ peeti.studio นำเสนอจิวเวอรี่ในสไตล์ที่ตัวเองถนัด โดยสร้างสรรค์คอลเล็กชันรูปทรงหยดน้ำใสที่เหมือนถูกหยุดเอาไว้ เหมือนเก็บรักษาน้ำหยดนั้นไม่ได้ตกลงแล้วระเหยไปอย่างนั้นแหละ
แก๊ปชอบแนวคิดที่แบรนด์เลือกหยิบช่วงเวลาการหยดของน้ำมาสร้างสรรค์เป็นเครื่องประดับเป็นพิเศษ "ในแง่มุมที่เราเป็นดีไซเนอร์ผมรู้สึกว่า ไม่รู้เขาคิดได้ยังไงที่ไปเลือกหยิบโมเม้นต์นั้นมาฟรีซไว้ แล้วยิ่งทึ่งกว่าตรงที่คิดแบบนี้ได้แล้วคุณสามารถทำฟอร์มแบบนี้ออกมาได้จริงๆ ด้วย เราเห็นถึงวิธีคิดของเขาที่ไม่ธรรมดา แล้วเขาสร้างฟอร์มธรรมชาติขึ้นมาได้จริงๆ อีกอย่างหนึ่งเรารู้สึกว่าแบรนด์นี้มีการแฝงแนวคิดเชิงธรรมะ เหมือนคอนเสปต์เขาที่เขียนไว้ว่า 'ข-ณะ หนึ่ง' ถ้าเกิดเราสวมใส่เครื่องประดับของเขา มันเหมือนมีการเตือนใจเราอยู่นิดๆ ว่า ให้คุณอยู่กับปัจจุบัน ให้อยู่กับช่วงเวบาใดช่วงเวลาหนึ่ง รู้สึกว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่น่าสนใจ"
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: peeti.studio
แบรนด์เครื่องประดับ ITTI-BITTI มีแนวคิดในการออกแบบว่า Everyday Wearable Art Piece เพื่อให้เครื่องประดับเป็นเหมือนงานศิลปะที่สามารถสวมใส่ได้ทุกวันนั่นเอง โดยคอลเลกชันที่ออกแบบมีทั้งได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงเรขาคณิตและปรากฏการณ์ธรรมชาติ
"นี่คือเครื่องประดับในรูปแบบที่เราชอบ ดูเรียบๆ ด้วยรูปทรงคลาสสิกอย่างเรขาคณิต แต่มีดีเทลในทุกชิ้น และในบางคอลเลกชันยังนำวัสดุที่เหลือจากการขายกลับมารีไซเคิลใช้ใหม่อีกด้วย มองเห็นตัวเองว่าสามารถหยิบจับเอาหลายๆ ชิ้นมาสร้างเลเยอร์ใส่รวมกันได้ สำหรับตัวเองคิดว่าเครื่องประดับในลักษณะนี้สามารถสร้างจังหวะให้เรา dress-up หรือ dress-down ได้อย่างกลมกลืน คิดว่าจะต้องกดซื้อเป็นของขวัญให้ตัวเองสักหลายๆ ชิ้นเลย" เป็นอีกแบรนด์ที่จิห้ามใจตัวเองไม่ไหวเหมือนกัน
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: ITTI-BITTI
แบรนด์เครื่องหอมที่สร้างสรรค์มาเพื่อคนรักศิลปะโดยเฉพาะ สำหรับคนที่ชื่นชอบผลงานศิลปะ หรือมีศิลปินในดวงใจอาจจะถูกใจเทียนหอมของ SLEEP.ing
เทียนหอมอโรมาแบรนด์นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากงานศิลปะ อย่าง Artist's Collection Candle ก็มีเทียนที่ออกแบบกลิ่นและสีจากผลงาน Starry Night ของ Vincent Van Gogh, The Truth of Nature โดย Claude Monet, The Scream ของ Edvard Munch หรือ Color Collection Candle ที่นำสีแพนโทนมาสร้างสรรค์กลิ่นที่สะท้อนคาแรกเตอร์ของสีที่นำมาเป็นเทียน เช่น VERY PERI (สีแพนโทนประจำปี 2022), ILLUMINATING & ULTIMATE GRAY (สีแพนโทนประจำปี 2021) เป็นต้น
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: SLEEP.ing
สินค้าจาก Something Simple มีแนวคิดแบบสโลว์แฟชั่นที่อยากให้ผู้ใช้สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ได้อย่างคุ้มค่า ดังนั้นจึงนำเสนอรูปแบบที่ดูเรียบง่าย ทั้งการออกแบบ การตัดเย็บ รวมถึงการใช้ง่าย ในเวลาเดียวกันยังประกอบไปด้วยรายละเอียดที่ใส่ไว้ในสินค้า ไม่ว่าจะเป็นช่องภายในกระเป๋า หูหิ้วที่ปรับใช้ได้หลายแบบ จึงเป็นฟังก์ชั่นที่เหมาะสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวันและตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนที่ชอบการเดินทางไปพร้อมๆ กัน
สำหรับเสื้อผ้าของแบรนด์ก็มีแนวคิดแบบเดียวกัน ภายใต้ความเรียบง่ายนั้นมีรายละเอียดมากมายซ่อนอยู่ อีกทั้งการเลือกใช้วัสดุธรรมชาติทำให้เนื้อผ้าสวมใส่สบายด้วย
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: Something Simple
PALINI เป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์แฟชั่นที่มีความเชื่อว่า ดีไซเนอร์ไทยรุ่นใหม่สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นดั่งศิลปะได้ แบรนด์มีการผสมผสานความต่างทางวัฒนธรรมมาไว้ในผลงาน แล้วปล่อยให้รูปร่าง รูปทรง พื้นผิว และสีสันต่างๆ เป็นตัวสะท้อนความเชื่อของแบรนด์ได้อย่างมีเอกลักษณ์
ซึ่งจิรู้จักแบรนด์นี้มานานแล้ว "ชอบในความไม่หวือหวาในการดีไซน์ของเขา แต่เขาจะเลือกเอาวัสดุจากหลายแหล่งมาทำจนได้เป็นเสื้อผ้า เป็นหมวกแบบที่ใส่ได้นาน ไม่เบื่อง่ายๆ"
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: PALINI

ตัวพยัญชนะไทยทำอะไรได้บ้างนะ แบรนด์ Phayanchana มีคำตอบจากผลงานการออกแบบสินค้าที่หลากหลาย ทั้งเสื้อยืด โปสเตอร์ และ โปสการ์ด ซึ่งสามารถนำมาเล่นเป็นเกมการ์ดเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านภาษาได้อีกด้วย
จิยกมือเป็นลูกค้าของแบรนด์นี้อีกแบรนด์หนึ่งแล้ว "เพิ่งเห็นการ์ดตัวพยัญชนะภาษาไทยของแบรนด์นี้ได้ไม่นานมานี้ ยังคิดอยู่เลยว่าต้องจัดมาเตรียมไว้ให้ลูกสักหน่อย เพราะรู้สึกว่าเขาคิดมาอย่างดีแล้วทั้งการฟังก์ชั่นและดีไซน์ที่สวยงาม คิดว่าสามารถนำไปใส่กรอบเพื่อทำเป็นภาพตกแต่งบ้านก็ยังได้ หรือเป็นของที่ซื้อฝากเพื่อนชาวต่างชาติก็น่าจะทำให้ผู้รับประทับใจได้ไม่น้อย"
"แบรนด์นี้ทำให้ผมนึกถึงสมัยเรียนภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรม ที่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนะครับ เคยมีโปรเจกต์ที่เป็นการบ้านแบบนี้เลย คืออาจารย์ให้นักศึกษาเลือกพยัญชนะไทยแล้วนำมาทำเป็นโมเดลเพื่อสื่อสารว่า ตัวพยัญชนะนี้คืออะไร แล้วผมคิดว่าสิ่งที่แบรนด์นี้ทำมันมีประโยชน์ต่อคนหลายเจนเนอเรชั่นมากๆ เพราะมีสินค้าที่เป็นเกมการ์ดสำหรับเด็กๆ หรือชาวต่างชาติที่ต้องการเรียนรู้ภาษาไทยได้ เขามีการต่อยอดเป็นการทำสินค้าอื่นๆ อีกด้วย มันเป็นวิธีการคิดที่เล่นกับฟอร์ม ทำอย่างไรก็ได้ให้เส้นสายของฟอร์มพยัญชนะมันเกิดฟังก์ชั่นที่ลงตัว อยากเห็นว่าเขาจะพัฒนาโปรดักส์อื่นในรูปแบบไหนต่อไป" แก๊ปมีประสบการณ์ร่วมกับ Phayanchana มากทีเดียว
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: Phayanchana
ชื่อแบรนด์เครื่องหนังนี้อาจจะทำให้เรานึกถึงหน่วยวัดความยาว เพราะ Sentimade ออกแบบผลิตภัณฑ์ด้วยความรักและความใส่ใจในทุกตารางเซนติเมตรนั่นเอง
Sentimade เป็นแบรนด์เครื่องหนังที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ไทย ที่ใช้หนังฟอกฝาด (Vegetable tanned leather) ในการผลิต ซึ่งหนังชนิดนี้ไม่ใช้สารเคมีในการฟอก แต่ใช้สารแทนนินที่สกัดจากเปลือกไม้จากธรรมชาติตามกรรมวิธีการทำเครื่องหนังสมัยก่อน เป็นวัสดุคุณภาพที่นำมาตัดเย็บโดยผู้เชี่ยวชาญ
คุณสมบัติของหนังฟอกฝาดคือ มีความแข็งแรงทนทาน เมื่อใช้ไประยะหนึ่งผิวจะมีสีเข้มขึ้น เป็นมันเงา และเกิดร่องรอยจากการใช้งานตามธรรมชาติ ซึ่งสะท้อนตัวตนของผู้ใช้อีกด้วย
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: Sentimade
เมื่อนำเสน่ห์แบบไทยๆ มาใช้ในการออกแบบด้วยลายเส้นและสีสันของตัวเอง กระเป๋า พวงกุญแจ โปสการ์ด และสติกเกอร์ของ kakkatoon ก็ทำให้คนที่เห็นสินค้ายิ้มได้เหมือนกัน
"เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่ชอบมากเหมือนกัน ผมรู้สึกว่าแบรนด์นี้เป็นแบรนด์ที่มีพลัง เห็นแล้วงานของเขาส่งต่อพลังมาให้ผม เรารู้สึกเรามีพลัง แล้วเราอยากทำงานสร้างสรรค์ ผมว่ามันมีความคลั่งไคล้และแพชชั่นในงานมาก ยิ่งเป็นงานแฮนด์เมดด้วย เคยเข้าไปในไอจีของแบรนด์ โอ้โห... มันละลานตาไปหมดเลย เพราะว่าลวดลายแพทเทิร์นเขามันโหดมาก เรารู้สึกว่าแค่เข้าไปดูงานของเขาก็สนุกแล้ว และไอเดียในการที่เขาล้ออาร์ตเวิร์กของแพคเกจจิ้งของแบรนด์ต่างๆ อย่าง ขวดน้ำปลา น้ำพริก กระป๋องคุกกี้ มันทำให้คนเชื่อมโยงประสบการณ์ได้ง่าย แล้วนำมาอยู่ในกระบวนการเย็บที่เป็นงานแฮนด์เมดมันมีเสน่ห์นะ "
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: kakkatoon
Ani Studio เป็นแบรนด์ปลอกคอสำหรับสุนัขและแมวที่คนรักสัตว์เลี้ยงเห็นเป็นต้องใจละลาย โดยปลอกคอผลิตจากผ้าฝ้าย 100% มีลวดลายและสีสันหลากหลายให้เลือก ตัวลายผ้าย้อมครามจากเชียงใหม่ ถือเป็นงานฝีมือที่พิถีพิถัน แล้วยังนำแมวที่บ้านมาเป็นแบบถ่ายภาพสินค้าเองด้วย
สำหรับคนที่เลี้ยงแมวอยู่แล้วไม่ต้องห่วงเรื่องปลอกคอนี้เลย เพราะมีตัวล็อคนิรภัยป้องกันเวลาที่แมวกระโดดไปเกี่ยวอะไรจะทำให้ปลอกคอหลุดออกมาไม่เป็นอันตรายต่อแมวที่เลี้ยงอยู่
นอกเหนือจากปลอกคอยังมีของเล่นสำหรับแมวที่ออกแบบตามธีมเทศกาลต่างๆ เช่น คริสต์มาส ตรุษจีน วาเลนไทน์ ฮาโลวีน ให้เลือกซื้อหากันด้วย
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: Ani Studio
ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ Nympheart เป็นการนำขอบนอกของไม้ซึ่งมักจะถูกทิ้งมาเป็นวัสดุหลักมาผสานกับเรซินจากยางไม้ (epoxy) และโลหะ จนเกิดเป็นเครื่องประดับ เคสโทรศัพท์มือถือ นาฬิกา แฟลชไดร์ฟ ของตกแต่ง หรือ เฟอร์นิเจอร์ ที่แต่ละชิ้นมีความโดดเด่นไม่ซ้ำกัน และเป็นเสน่ห์ของงานทำมือที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก
แก๊ปพูดถึงแบรนด์นี้ว่า "ผมเคยเห็นผลงานของเขาแล้ว เรารู้สึกว่าเป็นการผสานของวัสดุที่ดูลงตัว เพราะไม้เป็นวัสดุที่ดี แล้วตัวอีพ็อกซีเรซินของเขามีทั้งแบบที่ดูโปร่งใสสามารถมองทะลุได้กับแบบที่มีสีและพื้นผิวที่แตกต่าง เมื่อวัสดุสองส่วนนี้มาอยู่รวมกันแล้วแตกต่างแต่ลงตัวดี ลวดลายของชิ้นไม้ที่ไม่เหมือนกันทำให้เกิดความเป็นไปได้ที่หลากหลาย และเป็นงานทำมือที่มีชิ้นเดียว เลยรู้สึกว่ายิ่งมีมูลค่ามากขึ้น"
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: Nympheart
คาแรกเตอร์เป็ดหน้าตากวนแต่ชวนอารมณ์ดีของ Kaptor Store สะท้อนให้เห็นว่าการเป็นเป็ดทำให้สามารถทำได้ทุกอย่าง หากเรียนรู้และทดลองทำสิ่งต่างๆ ตามที่ต้องการ ก่อให้เกิดไอเดียสนุกๆ ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายอย่าง เสื้อยืด กระเป๋า หรือสติกเกอร์ที่น่าเอาไปแปะแล็ปท็อปจริงๆ
"ความกวนจากการเว้นวรรคคำบนลายเสื้อยืดของแบรนด์นี้ คือสิ่งที่ทำให้เราอดที่จะอมยิ้มตามไปด้วยไม่ได้ คิดว่าตัวดีไซเนอร์ต้องมีความขี้เล่นสูง และดึงเอาความขี้เล่นของตัวเองออกมาใส่ไว้ในของที่ขายได้อย่างชัดเจน" คาแรกเตอร์ของเป็ดแบรนด์นี้ก็ถูกใจจิเหมือนกัน
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: Kaptor Store
นี่อาจจะเป็นแบรนด์ที่เหมาะสำหรับคนคลั่งรักแมวแบรนด์หนึ่ง เพราะสินค้าจาก Purrcraft ก็มาจากคนที่เลี้ยงแมวรักแมวและหลงแมวเหมือนกัน
สินค้าสำหรับแมวทุกชิ้นคิดและออกแบบเพื่อความน่ารักและความปลอดภัยของแมวโดยเฉพาะ ทั้งน้ำหนักเบา มีความทนทาน เลือกวัสดุจากผ้าฝ้ายหรือผ้าลินิน 100% เพื่อไม่ให้แมวแพ้หรือขนร่วง ปลอกคอเป็นแบบนิรภัยที่เมื่อเกี่ยวกับอะไรแล้วสามารถหลุดออกได้ จึงไม่เป็นอันตรายกับแมว รวมถึงมีการเก็บรายละเอียดขั้นสุดท้ายด้วยมือ
ชมสินค้าของแบรนด์ได้ที่: Purrcraft
Special Promotion : Bangkok Design Week 2002 x happening
happening ร่วมกับ Bangkok Design Week 2022 จัดแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าของแบรนด์ทั้ง 21 แบรนด์จาก Creative Market ในปีนี้ ได้แก่ Thahomemade, GEMIO, CHECQO., AIBELLE, KH EDITIONS, moreover, Wax Valley, KUSU, Humeme, peeti.studio, ITTI-BITTI, SLEEP.ing, Something Simple, PALINI, Phayanchana, Sentimade, kakkatoon, Ani Studio, Nympheart, Kaptor Store และ Purrcraft ตั้งแต่วันที่ 5-28 กุมภาพันธ์ 2565 ผ่านทางเว็บไซต์ happeningandfriends.com
ทีมงานจะสุ่มผู้โชคดี 2 ท่านที่สนับสนุนแบรนด์ดีไซน์ดังกล่าว เพื่อรับของที่ระลึกสุดพิเศษจาก จิ-จิรายุ คูอรพัฒนะ (โปสการ์ด สติกเกอร์ และเข็มกลัด ที่ออกแบบโดย Jirayu Koo มูลค่า 1,500 บาท) และ แก๊ป-ธนเวทย์ สิริวัฒน์ธนกุล (ผลิตภัณฑ์คัดสรรจากแบรนด์ a piece(s) of paper มูลค่า 1,500 บาท) คนละ 1 ชุด แคมเปญนี้จะประกาศชื่อผู้โชคดีในเดือนมีนาคมทางเพจเฟซบุ๊ค happening mag