เจมส์ อลิน วี: อลิน อิน วันเดอร์แลนด์

    โลกใบนี้จะมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ตรงกลางระหว่างคำว่าในกระแส และนอกกระแส

    พวกเขาไม่ได้สนใจหรอกว่า สิ่งที่ตนชอบจะถูกจัดหมวดอยู่ในกระแสหรือนอกกระแส แต่สิ่งหนึ่งที่มั่นใจได้คือ กลุ่มคนเหล่านั้นกำลังหลงใหลคลั่งไคล้ในศิลปินคนหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในค่ายเพลงใหญ่ หรือโด่งดังมาจากเวทีประกวดใดๆ แต่ใช้ดนตรีในหัวใจและความรักในเสียงเพลง ขับกล่อมผู้ฟังจนมียอดเข้าชมทางยูทูบมหาศาล

    บางคอมเมนต์ในยูทูบบอกว่า เสียงของเขาไพเราะและมีเอกลักษณ์อย่างยิ่ง บางคอมเมนต์บอกว่าเขาหน้าตาเหมือนเป้ อารักษ์ และมีเซ็กซ์ แอพพีล สูงมาก ในขณะที่อีกบางคอมเมนต์บอกว่า ฟังเพลงของเขาแล้วรู้สึกอินจนน้ำตาไหลไม่รู้ตัว

    ความสำเร็จของเขาไม่ได้ดูเหลือเชื่อราวกับมาจากปาฏิหาริย์ แต่เราคงพูดไม่เกินเลยไปนักหากจะบอกว่าเรื่องของเขา และเพลงของเขาช่างน่าประทับใจราวกับเกิดขึ้นในดินแดนมหัศจรรย์

    เจมส์ อลิน วี (James Alyn Wee) คือนักร้องนักแต่งเพลงมาดเซอร์วัย 22 ปี ลูกครึ่งไทย-สิงคโปร์ ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 ในคณะนิเทศศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ผู้มาพร้อมกับสไตล์การแต่งตัวอันโดดเด่น และความสร้างสรรค์ในการทำงาน เขาคือเจ้าของผลงานเพลงเพราะๆ อย่าง กลับมาที่เดิม, หมดรัก, ย้อนเวลา, Addicted และอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งยังเคยร่วมงานกับ Youtuber ชื่อดังอย่าง billbilly01 ปล่อยเพลงคัฟเวอร์อย่าง Robbers ของ The 1975 และผลงานอีกไม่น้อยให้แฟนเพลงได้ฟังกัน แค่เพลง All We Know ของ The Chainsmokers ที่อลินร่วมงานกับ billbilly01 และ วิโอเลต วอเทียร์ ก็มียอดวิวเกือบสองล้านวิวในเวลา 8 เดือนแล้ว

    เรามีโอกาสได้นั่งลงพูดคุยกับศิลปินหนุ่มคนนี้ ประเด็นแรกๆ ของบทสนทนาก็คือที่มาที่ไปของหัวใจศิลปิน แนวทางการทำงาน ประสบการณ์ และความประทับใจในเส้นทางของนักดนตรีอิสระ

    "พี่ชายของผมเป็นนักดนตรี พ่อก็ชอบเล่นดนตรี แม่ก็ชอบฟังเพลง" อลินกล่าวถึงความเป็นครอบครัวนักดนตรีด้วยท่าทีเป็นกันเองทันทีที่เริ่มการสนทนา

    เส้นทางการเป็นศิลปินของเด็กหนุ่มจึงเริ่มต้นตั้งแต่จำความได้ เพราะสายเลือดศิลปินที่แฝงมาจากคุณพ่อ ผู้ชื่นชอบการเล่นกีตาร์ เปียโน และการร้องเพลงมาแต่ไหนแต่ไร ผนวกกับคุณแม่และพี่ชายที่หลงรักในดนตรีและสนับสนุนเสียงเพลงมาตลอด จนเด็กชายอลินได้ซึมซับและรับเอาดนตรีเข้ามาในหัวใจ และเริ่มฝึกฝนฝีมือด้วยตนเองจากคลิปสอนเล่นเครื่องดนตรีต่างๆ ตามอินเทอร์เน็ต 

    "ครั้งแรกที่อัพคลิปคือตอนอายุ 15 ไม่ได้คิดเรื่องการโปรโมตหรืออะไรเลย ทำเพราะชอบล้วนๆ แต่กระแสตอบรับดี เริ่มมีคนมาชอบ มาติดตามเรื่อยๆ จากเพลงนู้นเพลงนี้บ้าง" ศิลปินหนุ่มย้อนความหลังด้วยแววตาที่เปล่งประกาย

    อีกหนึ่งก้าวสำคัญสู่การเป็นศิลปินอย่างเต็มตัวของอลิน คือตอนที่ได้แสดงละครซิตคอมเพลงทางช่อง 3 เรื่อง ครัวซองทำนองรัก คู่กับนักแสดงรุ่นพี่อย่าง หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ ทำให้เขาได้มีโอกาสโชว์ฝีมือด้านการแต่งเพลง จนกลายมาเป็นจุดกำเนิดของการทำเพลงอย่างจริงจัง

    "ช่วงแรกยังไม่มีคนช่วย ต้องแต่งเอง เรียบเรียงเอง เล่นเอง อัดเพลงเอง แต่ตอนนี้มีคนช่วยแล้ว ก็ได้ MR Arranger และ Links Music ซึ่งเป็นค่ายเพลงที่เราทำร่วมกับพี่ชายมาช่วย เพราะตั้งใจแต่แรกแล้วว่าจะไม่เข้าค่ายใหญ่ อยากมีอิสระในการทำเพลง ที่สำคัญเลยคือ วง The Thaitans ที่เล่นมาด้วยกัน ผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะ ทำให้สนิทกัน มีไอเดียอะไรก็มาแบ่งปันกัน งานเลยออกมาง่ายขึ้น ดีขึ้น" ศิลปินหนุ่มพูดถึงผู้ช่วยคนสำคัญของตนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

ทุกครั้งที่ท้อ ผมจะกลับไปมองที่จุดเริ่มต้นว่าทำไมถึงเริ่มทำเพลง แล้วก็จะนึกได้ว่า นี่คือสิ่งที่เราอยากทุ่มเทกับมัน ทำมันให้เต็มที่มากที่สุด ถ้าไม่ทุ่มเทเต็มที่ ผลที่ออกมาก็คงจะได้แค่นั้น

    และหนึ่งในความตั้งใจของศิลปินคงไม่พ้นการมีอัลบั้มเต็มเป็นของตัวเอง ซึ่งอลินก็กำลังทำตามความตั้งใจนั้นอยู่ อัลบั้มที่เขากำลังทำอยู่นี้ถือเป็นอัลบั้มแรกในชีวิตของเขา ซึ่งจะประกอบไปด้วยเพลงไทยและเพลงสากลอย่างละครึ่ง โดยมีกำหนดการว่าจะปล่อยออกมาภายในสิ้นปีนี้ 

    เมื่อบทสนทนามาถึงเรื่องแรงบันดาลใจในการแต่งเพลง เขาก็นิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนจะอธิบายออกมา

    "มันมีหลายแบบ ทั้งเหตุการณ์ที่เจอมากับตัว แล้วมันทำให้เรารู้สึกอะไรบางอย่างจนแต่งเป็นเพลงออกมาได้ เป็นอารมณ์ผสมจินตนาการจากตอนที่หยิบกีตาร์ขึ้นมาเล่น บางครั้งก็เริ่มมาจากทำนองที่มันเล่นอยู่ในหัว แล้วค่อยมาหาคอร์ดใส่ หรือกลับกันอาจจะเป็นคอร์ดที่เราเล่นมา แล้วค่อยเอาทำนองมาใส่ แรงบันดาลใจอาจจะมาจากกีตาร์ เปียโน เสียงดนตรี หรือเรื่องราวที่อยากเล่า มันมาไม่เหมือนกัน" 

    ความใฝ่ฝันสูงสุดของอลินนอกจากการได้สร้างสรรค์ผลงานเพลงไปเรื่อยๆ แล้ว เขายังตั้งเป้าหมายว่า อยากจะทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศ เพราะเชื่อว่าการแสดงดนตรีสดเป็นวิธีการสื่อสารที่ใกล้ชิดและเข้าถึงใจของคนฟังได้ดีที่สุด ดังนั้น ในขั้นตอนการอัดเพลง อลินมักจะใช้วิธีเล่นสดแล้วอัดคลิปเผยแพร่ให้แฟนๆ ได้ฟัง

    "ชอบเล่นสดมากกว่า อย่างตอนไปเล่นที่งาน Art Box เมื่อปีที่แล้ว เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ได้เล่นกับวงติดต่อกัน 18 วัน ทุกศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ มันทำให้รู้จักกับวงมากขึ้น เล่นเข้าขากันมากขึ้น เคมีดีขึ้น แล้วก็ได้เจอแฟนๆ ด้วย คนที่ติดตามทุกวันนี้ก็มาจาก Art Box เยอะ" เขาเล่าถึงประสบการณ์แสดงคอนเสิร์ตที่ประทับใจที่สุด

    การเป็นศิลปินสร้างเรื่องราวและความประทับใจมากมายให้กับอลิน เพราะมันทำให้เขามีโอกาสได้แสดงตัวตนผ่านโน้ตดนตรี ท่วงทำนอง และคำร้อง แต่แน่นอนว่า ทุกคนต่างมีช่วงเวลาที่รู้สึกท้อแท้ หรือเหน็ดเหนื่อยจากสิ่งที่ทำอยู่ หนุ่มวัย 22 คนนี้ก็เช่นกัน แต่แม้เขาจะท้อแท้เพียงไร ความรู้สึกที่อยากหยิบกีตาร์ขึ้นมาบรรเลงเพลง ก็ไม่เคยห่างหายไปจากตัวเขาเลยสักวัน

    "ทุกครั้งที่ท้อ ผมจะกลับไปมองที่จุดเริ่มต้นว่าทำไมเราถึงเริ่มทำเพลง แล้วก็จะนึกได้ว่า นี่คือสิ่งที่เราอยากทุ่มเทกับมัน ทำมันให้เต็มที่มากที่สุด ถ้าไม่ทุ่มเทเต็มที่ ผลที่ออกมาก็คงจะได้แค่นั้น" นักร้องหนุ่มกล่าวด้วยรอยยิ้ม

    ครอบครัวศิลปิน จินตนาการ และอารมณ์ที่ผสมผสานร้อยเรียง ให้เขากลายเป็นชายหนุ่มผู้เติบโตมาพร้อมกับความมหัศจรรย์ กับท่วงทำนองที่กลั่นกรองมาเป็นอย่างดี ทำให้อลินกลายเป็นศิลปินหนุ่มที่น่าจับตามอง และชวนใครหลายคนเข้าไปทำความรู้จักกับเขาผ่านบทเพลงมากยิ่งขึ้น 

    ไม่ว่าการเดินทางในโลกแห่งเสียงเพลงของอลินจะมีปลายทางเช่นไร แต่ในขณะที่เราพูดคุยกับเขา เราก็รู้สึกได้ว่าตอนนี้ อลินกำลังอยู่ในดินแดนมหัศจรรย์ที่ตัวเองใฝ่ฝันแล้ว

    และ เจมส์ อลิน วี กำลังรอให้คุณเข้าไปในดินแดนนั้นด้วยกัน

Favorite Something
  •   Game of Thrones (2012-present)
  •   The 1975, Ed Sheeran, Kodaline
  •   One piece, Naruto
  •   Martin Garrix, Justin Bieber

จิรัชญา ชัยชุมขุน

มนุษย์เรียบๆ ง่ายๆ ที่หลงใหลในความคึกคัก วุ่นวาย ความบ้าบอของชีวิต ชอบคุยกับตัวเองผ่านตัวอักษรกับรูปถ่าย แม้สุดท้ายแล้วจะไม่เข้าใจตัวเองเลยก็ตาม

เดือนเพ็ญ จุ้ยประชา

นักเขียนและกองบรรณาธิการที่พบเจอตัวได้ตามหอศิลป์และร้านหนังสือ ชอบกินแซลมอนและชาบู อยากแก่ไปเป็นคุณป้าใจดีและมีฝูงแมวห้อมล้อม