"ฉันขอเป็นมะเร็งดีกว่ามีหัวใจที่ไม่ซื่อสัตย์"
ประโยคที่ชวนให้กระตุกใจคิดตามนี้หลุดออกมาจากปากของมิสฮอลิเดย์ โกไลต์ลี หญิงสาวแสนสวยผู้มีหัวใจรักความอิสระเสรีที่ไม่ยอมถูกร้อยรัดผูกมัดอยู่กับสิ่งใด แม้กระทั่งความรัก ซึ่งเธอก็ช่างมาได้จังหวะพอดีกับยุคที่เราต้องเลือกเป็นตัวเองแล้วมีคนไม่ชอบ หรือพอพยายามเป็นคนที่ใครๆ ชอบ ก็ดันรู้สึกว่าไม่เป็นตัวเอง
Breakfast at Tiffany's หรือ มื้อเช้าที่ทิฟฟานีส์ เป็นผลงานนวนิยายขนาดสั้นของ ทรูแมน คาโพที (Truman Capote) นักเขียนชาวอเมริกันซึ่งมีชื่อเสียงในแวดวงวรรณกรรม ผลงานของเขามีทั้งเรื่องสั้น นิยาย บทละคร และบทภาพยนตร์ แน่นอนว่าเรื่องราวของมิสฮอลิเดย์คนนี้ก็เป็นหนึ่งในผลงานอันโด่งดังของเขา แม้ว่าหนังสือเล่มบางเล่มนี้จะถูกจัดอยู่ในงานเบาๆ ของคาโพที ทว่าเราก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าในความอ่านสนุกและบันเทิงนั้นก็ยังแฝงไปด้วยบรรยากาศทึมเทา อาบคลุมไปด้วยความเศร้าและขมขื่นอยู่กลายๆ
แม้ว่าตัวเรื่องจะถูกเล่าผ่านมุมมองชายนิรนามคนหนึ่งที่มีต่อ ฮอลลี หรือ ฮอลิเดย์ โกไลต์ลี ตัวละครเด่นของเรื่อง กอปรกับความคิดเห็นและเรื่องราวที่บอกเล่าจากตัวละครอื่นๆ ถึงหล่อน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ตัวตนของหญิงสาวคนนี้ชัดเจนเป็นแม่นมั่นขึ้น เนื่องจากตัวตนของเธอ เลื่อนไหล เปลี่ยนแปลง และเปลี่ยนผ่านได้ตลอดเวลา เธอในอดีตผ่านคำบอกเล่าอาจไม่ใช่เธอคนเดียวในปัจจุบันที่เรากำลังเผชิญอยู่ ความรักในอิสรภาพจนไม่สนใจกฎเกณฑ์และมาตรวัดที่สังคมกำหนดไว้นั้นเป็นลักษณะนิสัยอันแสนโดดเด่นของตัวละครตัวนี้ ฮอลลียอมถูกมองว่าเป็นนังแพศยาหรือโสเภณีเสียด้วยซ้ำ เพียงแต่ขอแค่ให้เธอได้ทำในสิ่งที่ชอบและต้องการเท่านั้น นอกจากนี้ทุกอย่างรอบตัวเธอก็ยังแสดงออกถึงความเป็นชั่วคราว ไม่ว่าจะเป็นชื่อที่เธอตั้งขึ้นใหม่ให้ตนเอง แมวเลี้ยงที่เธอไม่ได้ตั้งชื่อให้ ห้องพักที่สภาพเหมือนเพิ่งย้ายมา ประโยค 'อยู่ระหว่างเดินทาง' ลงท้ายในนามบัตรหรือป้ายชื่อในกล่องไปรษณีย์ หรือแม้กระทั่งความชื่นชอบของเธอที่มีต่อร้านเพชร ทิฟฟานีส์ ซึ่งไม่สามารถอยู่อาศัยได้เพราะมีความเป็นห้างร้าน ทั้งหมดทั้งมวลนี้เน้นย้ำให้เห็นถึงการไม่มีอยู่จริงของสภาวะเป็นของกันและกันของหญิงสาว
คงไม่ต่างจากตัวตนของเราหลายๆ คนที่แปรเปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา จากเด็กเป็นผู้ใหญ่ จากสดใสเป็นเงียบขรึม จากรักเป็นไม่รัก จากกระดาษเป็นคอมพิวเตอร์ บางสิ่งรวมถึงบางคนที่เราอยากและยอมให้เกี่ยวกระหวัดมัดเราไว้ก็กลายเป็นสิ่งอึดอัดที่อยากสละทิ้ง เพราะเมื่อเติบโตและพบเจอผู้คนที่หลากหลายขึ้น เราก็จะพบว่าทุกคนต่างเป็นอิสระต่อกันและไม่มีสิ่งใดยั่งยืนเลยแม้แต่น้อย
เมื่ออ่านจบแล้วก็ได้แต่รำพึงรำพันกับตัวเองว่าแท้จริงแล้วเราก็ไม่ได้ต่างไปจากมิสฮอลลี เพราะที่สุดแล้วตัวเราเองก็ยังไม่มีทางรู้ได้แน่ชัดว่าเมื่อใดกันที่จะพบเจอตัวตนและแห่งหนที่ปรารถนาจริงๆ เสียที
หมายเหตุ: หนังสือเล่มนี้เป็นฉบับแปลภาษาไทยจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ
3371 VIEWS |
นักเขียนและกองบรรณาธิการที่พบเจอตัวได้ตามหอศิลป์และร้านหนังสือ ชอบกินแซลมอนและชาบู อยากแก่ไปเป็นคุณป้าใจดีและมีฝูงแมวห้อมล้อม